กทพ. ชะลอปรับขึ้นค่าผ่านทางของทางพิเศษฉลองรัชและบูรพาวิถี ออกไปอีก 6 เดือน มีผลวันที่ 1 มี.ค. 67 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและผู้ประกอบการทางด้านขนส่ง
23 ส.ค. 2566 – รายงานข่าวจาก การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แจ้งว่าได้ ชะลอปรับขึ้นค่าผ่านทางพิเศษ 2 สายทาง คือ ทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบูรพาวิถี ออกไปอีก 6 เดือน จากกำหนดเดิมที่จะปรับขึ้นในวันที่ 1 กันยายน 2566 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน
โดย นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม รักษาราชการแทน รมช.คมนาคม ได้ลงนามเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 ที่กำหนดให้ทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) และทางพิเศษบูรพาวิถี(บางนา-ชลบุรี) ชะลอการปรับค่าผ่านทางออกไปอีก 6 เดือน หรือไปมีผลวันที่ 1 มี.ค. 2567 เพื่อลดภาระใช้จ่ายของประชาชน รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการทางด้านขนส่ง
ทั้งนี้ อัตราค่าผ่านทางใหม่ ที่จะมีผลในวันที่ 1 มี.ค. 2567 จะปรับเป็นอัตราดังนี้ อัตราค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช – รถ4 ล้อ 45 บาท รถ 6-10 ล้อ 65 บาท รถมากกว่า 10 ล้อ 90 บาท
ยกเว้นด่านฯ รามอินทรา 1 และด่านฯ สุขาภิบาล 5-2
รถ 4 ล้อ 20 บาท รถ 6-10 ล้อ 35 บาท รถมากกว่า 10 ล้อ 45 บาท
อัตราค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี
รถ 4 ล้อ กรณีเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร จะใช้อัตราค่าผ่านทางเดิม แต่กรณีเดินทางเกิน 20 กิโลเมตร จะปรับอัตราค่าผ่านทางต่ำสุด 5 บาท สูงสุดไม่เกิน 10 บาท โดยคิดตามระยะทาง
รถ 6-10 ล้อ กรณีเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร จะปรับขึ้น 5 บาท แต่กรณีเดินทางเกิน 20 กิโลเมตร จะปรับอัตราค่าผ่านทางต่ำสุด 10 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 บาท โดยคิดตามระยะทาง
รถมากกว่า 10 ล้อ กรณีเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร จะปรับขึ้น 5 บาท แต่กรณีเดินทางเกิน 20 กิโลเมตร จะปรับอัตราค่าผ่านทางต่ำสุด 10 บาท สูงสุดไม่เกิน 25 บาท โดยคิดตามระยะทาง
โดยการชะลอหรือการปรับขึ้นค่าผ่านทางดังกล่าว เป็นไปตามสัญญาโอนและรับโอนสิทธิในรายได้ในส่วนที่เกี่ยวกับโครงการทางพิเศษฉลองรัช และโครงการทางพิเศษบูรพาวิถี (Revenue Transfer Agreement : RTA) กับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย TFFIF ในข้อ 4.4 การปรับค่าผ่านทางที่ระบุว่า เมื่อมีการพิจารณาตามข้อ 5.4 (1) แล้วปรากฎว่าจะต้องปรับค่าผ่านทางเพิ่มขึ้นทาง กทพ. จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนและกระบวนการที่ระบุไว้ในกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะนั้น เพื่อให้มีผลบังคับภายในวันที่ 1 ก.ย. ของปีเดียวกับที่ได้มีการพิจารณา
ทั้งนี้ หาก กทพ. ได้ดำเนินการต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว แต่ไม่มีการปรับอัตราค่าผ่านทางหรือไม่สามารถปรับอัตราค่าผ่านทางได้เต็มจำนวนที่คำนวณได้ หรือมีการปรับอัตราค่าผ่านทางล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้ให้ถือว่า กทพ. ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามข้อนี้ครบถ้วนแล้ว และไม่ถือว่าเป็นเหตุให้ กทพ. ผิดข้อสัญญาหรือทำให้กองทุนฯ มีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายค่าชดเชยหรือเงินเพิ่มใด ๆ จาก กทพ. โดยการชะลอการปรับค่าผ่านทางออกไปอีก 6 เดือน จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน คิดเป็นเงินกว่า 233 ล้านบาท
สำหรับการปรับค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบูรพาวิถี นั้น เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย TFFIF โดยเริ่มพิจารณาปรับอัตราค่าผ่านทางวันที่ 1 มี.ค. 2566 และ กทพ. จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนให้มีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 1 ก.ย. 2566
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ กทพ. ได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการปรับค่าผ่านทางตามสัญญาในส่วนที่เกี่ยวกับโครงการทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบูรพาวิถี (RTA) รวมถึงพิจารณาปรับค่าผ่านทางทางพิเศษกาญจนาภิเษก(บางพลี- สุขสวัสดิ์) ซึ่งครบรอบ 5 ปี โดยคำนวณตามดัชนีผู้บริโภค (CPI) จะปรับขึ้นประมาณ 10% หรือประมาณ 5 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ดร.สามารถ' กางตัวเลขบอกรู้แล้วอึ้ง!ขยายสัมปทานทางด่วนศรีรัชเอกชนฟาดกำไรเท่าใด
ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
'ดร.สามารถ' หนุนรัฐซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าคืนจากเอกชน แต่ค้านขยายสัมปทานทางด่วนศรีรัช
'ดร.สามารถ' หนุนรัฐซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าคืนจากเอกชน เพื่อลดค่าโดยสารทุกสายทุกสีเหลือ 20 บาทตลอดสาย ต้องการทำให้ค่าผ่านทางด่วนถูกลงด้วย ก็เป็นเรื่องดีเช่นเดียวกัน แต่กลับจะขยายสัมปทานทางด่วนศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) ให้เอกชน ซึ่งจะไม่สามารถทำให้ค่าผ่านทางด่วนทั้งโครงข่ายถูกลงได้ ในทางกลับกัน การทำให้สัญญาสัมปทานสิ้นสุดลงโดยเร็ว จะทำให้ค่าผ่านทางถูกลง
กทพ.ผุดทางด่วนริเวียร่า 'สมุทรสาคร-สมุทรปราการ' มูลค่าแสนล้าน
“กทพ.” กางแผนลุ้นปี 69-70 ศึกษาสร้าง “ทางด่วนริเวียร่าสมุทรสาคร-สมุทรปราการ” วงเงิน 1.09 แสนล้านบาท ยาว 71 กม. เล็งตอกเสาเข็มแบ่งเป็นเฟส รับแผนแม่บท MR-MAP เชื่อมมอเตอร์เวย์ หนุนระบบราง
ตระกูลรัตนเศรษฐ ทิ้ง 'บิ๊กป้อม' อีกคน จับตาพลิกขั้วการเมือง
จากกระแสข่าวว่า มีอดีต สส.และอดีตผู้สมัคร สส. โดยเฉพาะตระกูลรัตนเศรษฐ ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอย่างต่อเนื่อง