ข่าวดีคนกรุง ลุ้นได้นั่งรถเมล์ปรับอากาศใหม่ไตรมาส2ปี65

ลุ้น! คนกรุงฯ ได้นั่งรถเมล์แอร์ใหม่ช่วงไตรมาส 2 ปี 65 หลัง ขสมก.เตรียมจ้างเอกชนวิ่งให้บริการตามระยะทาง จ่อสรุปตัวเลขจำนวนรถ-เส้นทางวิ่งภายใน 2 เดือนนี้ รองรับประชาชนเดินทางวันละ 6 แสนคน ยันไม่ต้องกู้-ไม่เพิ่มหนี้ เผยล่าสุดมูลค่าหนี้แตะ 1.4 แสนล้าน

11 ธ.ค.2564-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เมื่อ ก.ย. 2564 ที่ผ่านมา มีมติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ไปพิจารณารายละเอียดของแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. ฉบับเมื่อปี 2562 ว่า มีเรื่องใดที่สอดคล้องกันกับแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. (ฉบับปรับปรุงใหม่) ให้สามารถนำมาดำเนินการได้ เช่น การปรับโครงสร้างองค์กร, จ้างเอกชนวิ่งให้บริการตามระยะทาง ฯลฯ

สำหรับความคืบหน้าแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. นั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างที่การพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) โดยในระหว่างนี้ ขสมก. เตรียมดำเนินการจ้างเอกชนวิ่งให้บริการตามระยะทาง ใช้รถปรับอากาศใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม คาดว่า จะนำมาวิ่งให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2565

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ในขณะนี้ ขสมก. อยู่ระหว่างการสรุปข้อมูลจะต้องจ้างเอกชนวิ่งรถจำนวนกี่คัน และนำมาวิ่งให้บริการในเส้นทางใดบ้าง โดยเฉพาะเส้นทางที่มีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมาก คาดว่า จะสรุปรายละเอียดได้ภายใน ก.พ. 2565 หรือ 2 เดือนนับจากนี้ ทั้งนี้ เพื่อให้รถโดยสารเพียงพอต่อการให้บริการประชาชนที่ในปัจจุบัน ขสมก.มีผู้โดยสารใช้บริการ กว่า 600,000 คนต่อวัน

สำหรับการดำเนินการดังกล่าวนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชน ซึ่งการจ้างเอกชนนำรถโดยสารมาวิ่งให้บริการตามระยะทาง จะทำให้ผลการดำเนินการของ ขสมก. มีรายรับสอดคล้องกับรายจ่าย ไม่ต้องกู้เงินเพิ่ม สามารถบริหารจัดการองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกัน หากยังคงใช้รูปแบบเดิม ขสมก. จะต้องเสียค่าซ่อมบำรุง 10 ปี มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท รวมถึงถ้าไม่มีการดำเนินการใดๆ จะทำให้มูลค่าหนี้สะสมของ ขสมก. เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปี 2563 ขสมก.มีหนี้สะสม 132,000 ล้านบาท แต่ในปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 140,000 ล้านบาท

รายงานข่าวจาก ขสมก. ระบุว่า สำหรับความคืบหน้าการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. (ฉบับปรับปรุงใหม่) นั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาพัฒน์ฯ ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วเสร็จ จึงเสนอไปยัง คนร. และเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป แต่จะสามารถเสนอไปยัง ครม. ได้เมื่อใดนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสภาพัฒน์ฯ ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่

สำหรับแผนฟื้นฟู ขสมก. เมื่อผ่านการพิจารณาอนุมัติจาก ครม.แล้วนั้น ขสมก. จะเริ่มทยอยรับรถโดยสารไฟฟ้า (EV) ล็อตแรก จำนวน 400 คัน หลังจาก ครม.อนุมัติใน 3 เดือน และครบ 2,511 คันใน 6 เดือน ซึ่งเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ในแผนฟื้นฟู ขสมก. โดยในปัจจุบัน ขสมก. มีรถวิ่งให้บริการอยู่ประมาณ 2,900 กว่าคัน และเมื่อ ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา ได้ปลดระวางรถ จำนวน 70 กว่าคัน