ได้ฤกษ์ ‘กรมทางหลวง’ เล็งเปิดประมูลที่พักริมทาง ‘ศรีราชา-บางละมุง’

‘กรมทางหลวง’ เตรียมประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน ที่พักริมทางมอเตอร์เวย์สาย 7 จำนวน 2 แห่ง ‘ศรีราชา-บางละมุง’ ก่อนให้ยื่นข้อเสนอช่วงปลายปี 66 คาดได้ผู้ชนะต้นปี 67 ก่อนลงมือก่อสร้าง เปิดให้บริการบางส่วนในปี 68 และเปิดบริการเต็มรูปแบบในปี 69

15 ส.ค.2566-นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 ส.ค.นี้ ทล. เตรียมแถลงแผนการประมูลคัดเลือกเอกชนในรูปแบบให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐ (PPP) โครงการทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 (M7) สายกรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง จำนวน 2 สัญญา ได้แก่ 1.ศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา และ 2.สถานที่บริการทางหลวงบางละมุง

ทั้งนี้หลังจากที่ทั้ง 2 สัญญาดังกล่าว สำนักงานอัยการสูงสุดได้ตรวจร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ และส่งกลับมาให้ ทล. แล้วเมื่อปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และปัจจุบันได้จัดทำร่างเอกสารการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน (Request For Proposal : RFP) แล้วเสร็จ ซึ่ง ทล. จะประกาศเชิญชวนให้เอกชนร่วมลงทุน จากนั้นจะขายเอกสาร RFP ปลายเดือน ส.ค.2566 และให้เอกชนยื่นข้อเสนอช่วงปลายปี 2566 ก่อนที่คณะกรรมการคัดเลือกจะประเมินข้อเสนอ เจรจาร่างสัญญา และสรุปผลการคัดเลือกฯ ซึ่งตามแผนคาดว่าจะได้เอกชนผู้ชนะช่วงต้นปี 2567 และลงนามสัญญากับเอกชนช่วง มิ.ย.2567 ก่อนดำเนินการก่อสร้างตามสัญญา ซึ่งตามแผนจะเปิดให้บริการบางส่วนในปี 2568 และเปิดบริการเต็มรูปแบบในปี 2569 ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี

สำหรับโครงการศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา ขนาดพื้นที่ฝั่งละประมาณ 59 ไร่ เป็นที่พักริมทางขนาดใหญ่ บริเวณ กม.93+750 บนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ตั้งอยู่ระหว่างทางแยกต่างระดับบางพระ (คีรี) และทางแยกต่างระดับหนองขาม ทั้งนี้ปริมาณจราจรในปี 2565 เฉลี่ย 90,500 คันต่อวัน คาดการณ์ปริมาณจราจรปีที่เปิดให้บริการอยู่ที่ 116,000 คันต่อวัน

อย่างไรก็ตามขณะที่โครงการสถานที่บริการทางหลวงบางละมุง ขนาดพื้นที่ฝั่งละประมาณ 39 ไร่ เป็นที่พักริมทางขนาดกลาง บริเวณ กม.137+800 บนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ตั้งอยู่ระหว่างทางแยกต่างระดับห้วยใหญ่และทางแยกต่างระดับเขาชีโอน ทั้งนี้ปริมาณจราจรในปี 2565 เฉลี่ย 13,100 คันต่อวัน คาดการณ์ปริมาณจราจรปีที่เปิดให้บริการอยู่ที่ 20,000 คันต่อวัน

ทั้งนี้เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะเป็นจุดแวะพักสำหรับผู้ใช้เส้นทาง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้บริการครบครัน เช่น ห้องน้ำ ที่จอดรถ ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าชุมชน และสถานีบริการน้ำมัน เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยต่อไป