เด็กเพื่อไทยโต้ผู้ว่าแบงก์ชาติบอก Digital Wallet ไม่ประชานิยมแต่เป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจ!

ดร.เผ่าภูมิแย้งผู้ว่าแบงก์ชาติ ยันตั้งรัฐบาลช้าคือสุญญากาศเศรษฐกิจ ชี้ Digital Wallet ไม่ประชานิยม แต่พลิกโฉม เศรษฐกิจไทย

10 ส.ค.2566 - ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมการและโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความเห็นในงานสัมนาของ ธปท. โดยมีความเห็นแลกเปลี่ยนกับผู้ว่าแบงก์ชาติ 5 ประเด็น คือ

1. เข้าใจความกังวลของผู้ว่าแบงก์ชาติเรื่อง ประชานิยม ซึ่งหากรัฐบาลใหม่หมายถึงรัฐบาลเพื่อไทย นโยบายนี้ก็คงจะหมายถึง Digital Wallet ซึ่งขอแลกเปลี่ยนดังนี้ Digital Wallet ไม่ใช่ประชานิยม แต่คือการชุบชีวิตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ 10,000 บาทสำหรับทุกคน (16 ปีขึ้นไป) สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจกระจายอยู่ทั่วทุกชุมชนทั่วประเทศ Digital Wallet เป็นความจำเป็น ไม่ใช่ทางเลือก ในจังหวะที่ประเทศบอบช้ำ และการสร้างกำลังซื้อตามธรรมชาตินั้นไม่ทันการ

เทคโนโลยี Blockchain ของ Digital Wallet สร้างเงินหมุนได้รวดเร็ว ตรงเป้า เขียนเงื่อนไขและระยะเวลาได้ จะเกิดเงินหมุนที่พลังสูงกว่าและเป็นตัวจุดกำลังซื้อรวดเร็วแม่นยำกว่าแบบดั้งเดิม Digital Wallet นอกจากกระตุ้น เศรษฐกิจยังสร้างโครงสร้างพื้นฐานการเงินรองรับโลกยุคใหม่ พลิกโฉมประเทศ การลงทุนที่จะตามมานั้นมีผลตอบแทนมากกว่าเงินที่ลงทุนไป ซึ่งทุกนโยบายของพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญสูงสุดต่อความมั่นคงทางการคลัง ทุกบาทที่ใช้ต้องมีผลตอบแทนสูง และย้อนกลับมาเป็นความมั่นคงทางการคลังในระยะยาว

2. เห็นตรงกันว่าหนี้ครัวเรือนคือปัญหาใหญ่ แต่เห็นต่างกันที่ต้นตอของหนี้ครัวเรือน ธปท. มองว่าเกิดจากดอกเบี้ยต่ำ คนจึงก่อหนี้เยอะ แต่ข้อเท็จจริงนั้นเกิดจากประชาชนและภาคเอกชนรายได้ทรุดลงอย่างกะทันหัน (Income Shock) จำเป็นต้องก่อหนี้เพื่อการดำรงชีวิต และความอยู่รอดของธุรกิจ พรรคเพื่อไทยจึงมีนโยบายเข้าแก้ไขปัญหาใน 2 ขั้นตอนทันที 1.แก้หนี้ทันที ทั้งมาตรการพักหนี้เกษตรกร และหนี้ SME ในรหัส 21 ที่เดือดร้อนจากโควิด และ 2.สร้างงานสร้างรายได้ทันที เริ่มจาก Digital Wallet ตามด้วยการดึงรายได้ใหม่เข้าประเทศจากการดูดการลงทุนใหม่ เปิดประเทศด้วยนโยบายต่างประเทศเชิงรุกทันที เป็นต้น

3.เห็นแย้งกับ ธปท.ที่ไม่กังวลกับการตั้งรัฐบาลช้า การขาดงบลงทุนใหม่หลายแสนล้านบาทไปครึ่งปีนั้น ไม่ใช่เรื่องที่น่าสบายใจ เสมือนรถใส่เกียร์ว่าง ไร้คันเร่ง ที่กำลังถูกแซงไปครึ่งปี สำคัญกว่านั้นคือส่วนที่ไม่ใช่งบประมาณ ค่าเสียโอกาสของประเทศจากการชะลอการลงทุน การสูญเสียความเชื่อมั่น การย้ายฐานการผลิต ความสูญเสียในตลาดทุน และการขาดทิศทางของประเทศ เหล่านี้ประเมินค่าไม่ได้ คือสุญญากาศทางเศรษฐกิจ

4.เสถียรภาพ vs ศักยภาพ ของสถาบันการเงิน ตรงนี้เห็นต่าง ที่ผ่านมาไทยติดกับดักคำว่าเสถียรภาพ สร้างธนาคารเป็นสถาบันที่แข็งแกร่ง แต่กลับไม่ถูกใช้เป็นกลไกผลักดันทางเศรษฐกิจไปสู่รากหญ้าและ SME เพราะกลัวความเสี่ยง และกันคนเสี่ยงออกนอกระบบ จนการสร้างศักยภาพจากฐานของประเทศยังทำได้ไม่ดีพอ

และ 5.พรรคเพื่อไทย หากจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ จะเดินหน้าพลิกโฉมประเทศสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ โดยวิธีคิดแบบใหม่ สร้างรายได้แบบใหม่ ทัศนคติใหม่ แนวทางการบริหารแบบใหม่ สู่การพลิกโฉมเศรษฐกิจไทย และสร้างการทำงานประสานระหว่างนโยบายทางการคลังกับนโยบายทางการเงินอย่างไร้รอยต่อ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปูดรัฐบาลเหิมเกริมสั่งสื่อทีวีปิดปาก 'จตุพร' แลกผลประโยชน์ ปลุกปชช.ลุกขึ้นเปลี่ยนแปลง

ปูดรัฐบาลเหิมเกริม สั่งสื่อทีวีปิดปาก 'จตุพร' แลกผลประโยชน์ หวั่นขุดความจริงประจาน ทำ ปชช.รู้ทัน จตุพร ลั่นพูดสื่อไม่ได้ต้องไปพูดผ่านเครื่องกระจายเสียง 'ทนายนกเขา' ปลอบ ปชช.เลิกสิ้นหวังกับตนเอง กระตุ้นลุกขึ้นเปลี่ยนแปลง อย่าจมจ่อมกับแสดงพลังชุมนุม แนะแต่ละคนลงถนนแสดงฉันทามติ เชื่อเป็นพลังใหญ่ได้

ปูดวาระซ่อนเร้น! เหตุดึงดัน 'แจกเงินดิจิทัล'

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ได้คุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินคนหนึ่ง ซึ่งได้เคยดำเนินการออกหุ้นกู้ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่

ถก ‘ครม.เศรษฐกิจ’ นัดแรก เร่งช่วยสินเชื่อรายย่อย-เบิกงบฯ

ประเดิมถกคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ หรือ “ครม.เศรษฐกิจ” นัดแรก ของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีแล้ว เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยใช้ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เป็นสถานที่ประชุม