9 ส.ค. 2566 – นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานบริษัทฯ ไตรมาสที่ 2 ปี 2566 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 183 ล้านบาท เติบโต 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 66 จากรายได้ของธุรกิจคลังน้ำมันในประเทศไทยที่เริ่มรับรู้ในเดือนมิ.ย. และรายได้ที่เพิ่มขึ้นของ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นและโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ใน สปป. ลาว ขณะที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่สามารถทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 201 ล้านบาท ลดลง 61% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 66 เนื่องจากมีรายการพิเศษจากการรับรู้การกลับรายการขาดทุน จากการด้อยค่าของสินทรัพย์โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ชิบะ 2 ประเทศญี่ปุ่น
โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิลดลง 39% เนื่องจากการหยุดผลิตไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว เพื่อเตรียมการขายไฟฟ้าไปยังเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการผลิตและเริ่มขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าเวียดนามครบตามกำลังการผลิตเรียบร้อยแล้ว
“ในครึ่งปีหลังของปี 2566 บริษัทฯ จะรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มจำนวนจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ธุรกิจคลังน้ำมันในประเทศไทย และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่เราได้เข้าไปลงทุนในสหรัฐอเมริกาทั้งหมดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา” นายนิวัติ กล่าว