8 ส.ค. 2566 – นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า จากการแถลงข่าวของ บริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน) หรือ THAI ที่มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับเตอร์กิชแอร์ไลน์ เพื่อเตรียมความพร้อมการทำธุรกิจแบบ Joint Venture ของทั้ง 2 สายการบิน โดย THAI จะเริ่มให้บริการเที่ยวบินไปยังนครอิสตันบูลในเดือน ธ.ค. 2566 ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ THAI ในฐานะสายการบินที่เป็นประตูสู่ประเทศไทยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและออสเตรเลีย และจะเป็นการเปิดประตูไปสู่ประเทศตุรกี กลุ่มประเทศที่มีอาณาเขตติดกับตุรกี กลุ่มประเทศแอฟริกา และประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคยุโรปตะวันออก
ทั้งนี้ เมื่อประกอบกับการประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ที่คาดว่าจะขยายตัว 3.5% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง ภายใต้สมมติฐานเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ว่า จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 29.5 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่ 1.25 ล้านล้านบาท โดยในช่วงที่ผ่านมา ภาคการท่องเที่ยวของไทยยังพึ่งพาตลาดนักท่องเที่ยวจีนค่อนข้างมาก ซึ่งหากนักท่องเที่ยวจีนไม่ได้เดินทางมาประเทศไทยตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ อาจจะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวไทยได้ จึงจำเป็นที่ภาคการท่องเที่ยวของไทยจะต้องเร่งหาตลาดใหม่และกระจายฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น การเปิดเส้นทางบินใหม่ของ THAI ระหว่างกรุงเทพฯ และนครอิสตันบูล จะมีส่วนสำคัญที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนของทั้งสองประเทศ รวมทั้งการกระจายฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากนครอิสตันบูลตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางระหว่างเอเชียและยุโรป ซึ่งการเดินทางระหว่างกันของประชาชนทั้งสองประเทศมีความสะดวกเนื่องจากได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา ไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศ ถ้าพำนักอยู่ในประเทศนั้น ๆ ไม่เกิน 30 วัน อีกทั้งสนามบินของนครอิสตันบูลจะเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางไปยังตลาดใหม่ ๆ ของประเทศที่มีอาณาเขตเชื่อมโยงกับตุรกี เช่น กรีซ จอร์เจีย บัลแกเรีย อาเซอร์ไบจาน กลุ่มประเทศในยุโรปตะวันออก และกลุ่มประเทศแอฟริกาอีกด้วย
“ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทย และตุรกี ซึ่งมีประชากร 85 ล้านคน และมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 906 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 (ม.ค.-มิ.ย.) มีนักท่องเที่ยวจากประเทศตุรกี กลุ่มประเทศที่มีชายแดนติดกับตุรกี กลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก และกลุ่มประเทศแอฟริกาเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 1.04 ล้านคน ขยายตัวกว่า 711.62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน” นายพรชัย กล่าว
อย่างไรก็ดี สศค. มั่นใจว่า ภาคการท่องเที่ยวไทยจะยังคงมีทิศทางขยายตัวอย่างต่อเนื่องและเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยจากการอันดับของสถาบันวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์มาสเตอร์การ์ด (Mastercard Economics Institute) เปิดเผยว่าในปี 2566 ประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ของจุดหมายปลายทาง
ยอดนิยมของเอเชียแปซิฟิกที่นักท่องเที่ยวต้องการมาเยือนและพักแรมมากที่สุด ซึ่งการเปิดเส้นทางบินใหม่ของ THAIระหว่างกรุงเทพและนครอิสตันบูล จึงนับเป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยจะได้สร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกับประเทศตุรกีและประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มยุโรปตะวันออก รวมทั้งประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทย-ตุรกี ชื่นมื่น รมช. สุชาติ จับมือ รมช. การค้าตุรกี ผลักดันเจรจา FTA ต่อ เพื่อสานสัมพันธ์การค้าการลงทุน
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้พบหารือทวิภาคีกับนายมุสตาฟา ตุซคู (H.E. Mr. Mustafa Tuzcu) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าสาธารณรัฐตุรกี ในห้วงการเดินทางเยือนตุรกี เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการถาวรว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า
'ศิริกัญญา' ปูดรัฐบาลวางแผนยึดการบินไทย
“ศิริกัญญา” ชวนจับตา “รัฐบาล” วางแผนยึด “การบินไทย” ส่งผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ เพิ่ม 2 คน กุมเสียงข้างมาก คลังจ่อซื้อหุ้นเพิ่มทุนเต็มสิทธิ์ ถามเอาเงินจากไหน ไม่พ้นต้องควักเงินภาษี
ฟุ้งปี68ศก.โต3% จ่อชงมาตรการ! กระตุ้นช่วงปีใหม่
“คลัง” ยืนเป้าหมายจีดีพีปี 2567 ยังโต 2.7% โอดน้ำท่วมทำเศรษฐกิจเป๋