SCB ขยับจีดีพี 64 เพิ่มเป็น 1.1% มองตลาดแรงงาน-หนี้ครัวเรือนซึมยาว

“SCB” ขยับจีดีพีปีนี้เพิ่มเป็น 1.1% หลังโควิดเริ่มทุเลา พร้อมหั่นคาดการณ์ปี 65 เหลือ 3.2% ห่วงโอมิครอนทุบท่องเที่ยว มองตลาดแรงงาน-หนี้ครัวเรือนไทยสาหัสยาว หอการค้าปลื้มดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคทะยาน 3 เดือนติด

10 ธ.ค. 2564 นายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงาน Economic Inteligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) กล่าวว่า ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปี 2564เป็น 1.1% จากเดิม0.7% หลังการระบาดของโควิดในประเทศเริ่มคลี่คลาย ขณะที่ภาคส่งออกคาดว่าจะเติบโต 16.3% ส่วนปี 2565 ได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีของไทยเหลือ 3.2% จากเดิม3.4% ตามผลกระทบของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนต่อภาคการท่องเที่ยวและความเชื่อมั่นในช่วงต้นปี ส่วนการส่งออกของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องที่ 3.4%

ทั้งนี้ อัตราการว่างงานช่วงไตรมาส 3/2564 อยู่ที่ 2.3% ถือเป็นจุดสูงสุดใหม่ในช่วงโควิด และเป็นอัตราสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2550 โดยคาดว่าจะใช้เวลาพอสมควรกว่าตลาดแรงงานจะเข้าเข้าสู่ภาวะปกติ

“ปีหน้าภาพรวมเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และคาดว่าอาจจะต้องรอถึงกลางปี 2566 กว่าที่เศรษฐกิจจะกลับไปเติบโตเท่ากับช่วงปี 2562” นายยรรยง กล่าว

นายยรรยง กล่าวอีกว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังเติบโตต่ำกว่าศักยภาพและมี output loss ขนาดใหญ่ รวมถึงความเสี่ยงด้านต่ำจากโควิดระลอกใหม่ รัฐจึงยังควรคงบทบาทในการสนับสนุนเศรษฐกิจในปีหน้า รวมถึงควรพิจารณากู้เงินเพิ่มเติม ส่วนหนี้ครัวเรือนของไทยกระโดดขึ้นสูงมาก และแนวโน้มจะยังอยู่ในระดับสูงอีก 2-3 ปี จะเป็นปัจจัยกดดันต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษา ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.2564 ว่า ดัชนีทุกรายการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนตั้งแต่ พ.ค. 2564 จากการผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวขึ้น และการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเข้ามาหมุนเวียนเพิ่มเติมในระบบกว่า 1 แสนล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจและการจ้างงานดีขึ้นในช่วงปลายปีนี้

เพิ่มเพื่อน