“แบงก์ชาติ” เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการร้านค้าปลีก เดือน ก.ค. 2566 ทรุดต่อเดือนเป็นเดือนที่ 3 ชี้ร้านสะดวกซื้ออ่วมสุด เหตุกำลังซื้อผู้บริโภคแผ่ว จากผลกระทบค่าครองชีพสูง-ไร้มาตรการกระตุ้นใช้จ่ายจากภาครัฐ โอดดอกเบี้ยขยับขึ้น ทำภาระหนี้ทะยาน
3 ส.ค. 2566 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (Retailer Sentiment Index : RSI) ประจำเดือน ก.ค. 2566 โดยเป็นการสำรวจข้อมูลระหว่างวันที่ 17-25 ก.ค. 2566ซึ่งจัดทำร่วมกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทย พบว่า ดัชนี RSI เดือน ก.ค. ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 มาอยู่ที่ระดับ 43 โดยเป็นการลดลงในเกือบทุกประเภทร้านค้า นำโดยร้านสะดวกซื้อที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงมาก จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแอ โดยเฉพาะครัวเรือนฐานราก เนื่องจากภาวะค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูง และไม่มีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐ
ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกยังคงเผชิญกับภาวะต้นทุนสูงอย่างต่อเนื่อง แต่การปรับขึ้นราคาสินค้าทำได้อย่างจำกัด และยังต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น ทำให้ยอดขายและรายได้ธุรกิจลดลง ซึ่งกดดันให้ความเชื่อมั่นในปัจจุบันและอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับลดลงด้วย
ทั้งนี้ แม้ว่าภาพรวมความเชื่อมั่นยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง (Spending per bill) และความถี่ในการใช้บริการจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 50 แสดงถึงกำลังซื้อที่ฟื้นตัวยังไม่ชัดเจน ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิมปรับดีขึ้นในภาคเหนือและใต้จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น ความเชื่อมั่นปรับแย่ลงจากเดือนก่อนหน้าและอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนถึงการฟื้นตัวที่ไม่ทั่วถึง
นอกจากนี้ เมื่อลงมาดูในรายละเอียดเกี่ยวกับสภาพคล่องของธุรกิจ พบว่า สภาพคล่องธุรกิจในภาพรวมมีแนวโน้มลดลง สะท้อนจากสัดส่วนของธุรกิจที่มีสภาพคล่องต่ำกว่า 6 เดือนเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการกว่า 66% ของธุรกิจยังมีสภาพคล่องมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป ส่วนผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้น พบว่า กว่า 68% ของธุรกิจได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยส่วนใหญ่มีภาระหนี้เพิ่มขึ้น แต่ยังสามารถชำระเงินกู้ได้ตามปกติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ เลี่ยงตอบปม 'แบงก์ชาติ' ติงแจกเงินหมื่นเฟส 3
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งหนั