กกร.ผวาภัยแล้งรุนแรงเกินคาด ประเมินไทยสูญเสีย 5.3 หมื่นล้านบาท ลากยาวถึงครึ่งแรกของปีหน้า ร่ายปัจจัยเสี่ยงรุมรอรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารด่วน
2 ก.ค. 2566 – นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้มีความท้าทายสูง โดยเฉพาะเรื่องรายได้และต้นทุนในการดำรงชีพของประชาชน ที่สะท้อนจากราคาอาหารสำเร็จรูปและสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น และอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก จากความเสี่ยงภาวะภัยแล้งหรือฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง รวมทั้งอาจเกิดโรคระบาดในปศุสัตว์จากสภาพอากาศที่แปรปรวน
“ปัญหาภัยแล้งมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นมากกว่าคาด ปริมาณน้ำฝนสะสมในช่วงเดือนม.ค.-ก.ค.2566 ต่ำกว่าระดับปกติในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะภาคกลาง มีปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าปกติถึง 40% เมื่อพิจารณาปริมาณน้ำในเขื่อนใช้การได้ ณ เดือนก.ค.2566 พบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนในอยู่ในระดับวิกฤตใน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก โดยเฉพาะภาคกลางและภาคตะวันตกมีปริมาณน้ำใช้การได้ใกล้เคียงกับปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่ไทยเผชิญภัยแล้งรุนแรง ประเมินว่าภัยแล้งอาจสร้างมูลค่าความเสียหายสูงถึง 5.3 หมื่นล้านบาท ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรในช่วงปลายปี 2566 ถึงครึ่งแรกของปี 2567”นายผยง กล่าว
โดยกกร. ได้หารือกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยภาครัฐรับจัดทำ Water Balance ของแต่ละอ่างเก็บน้ำใหม่ และทบทวนแผนบริหารจัดการน้ำล่วงหน้า โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำบางพระ หนองปลาไหล และ ประแสร์ รวมทั้งเสนอให้เร่งรัดโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จ.จันทบุรี โดยด่วน และขอให้ทบทวนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โดยเฉพาะการพัฒนาแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่อีอีซีและพื้นที่อื่นๆ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบจากเอลนีโญที่ยาวนานและผันผวนมากขึ้น
นอกจากนี้ แรงส่งต่อเศรษฐกิจจากอุปสงค์ภายในประเทศยังเผชิญปัจจัยท้าทายมากขึ้น แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้มีโอกาสจะฟื้นตัวตามที่คาดไว้ 29-30 ล้านคน แต่การใช้จ่ายต่อหัวยังต่ำกว่าปี 2562 เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมาเต็มที่ ทำให้การฟื้นตัวของบางจังหวัดท่องเที่ยวยังช้า ภาคครัวเรือนยังมีความกังวลต่อภาระค่าครองชีพ และห่วงว่าเศรษฐกิจจะถดถอยมากกว่าประเทศอื่น
ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจปรับลดลง เนื่องจากกังวลต่อความยืดเยื้อของสถานการณ์ทางการเมือง การทำงบประมาณรายจ่ายของรัฐ และการชะลอตัวของการส่งออก ที่ประชุม กกร.จึงมีความเป็นห่วงและต้องการเห็นการเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่โดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยล่าสุดยังระบุว่า ครัวเรือนไทยมีภาระหนี้สินโดยเฉลี่ยครอบครัวละ 5.59 แสนบาท สูงสุดในรอบ 15 ปี และมีจำนวนถึง 54% ที่มีหนี้สูงกว่ารายได้ ซึ่งพบว่าเป็นหนี้นอกระบบสูงถึง 19.8% ของหนี้ทั้งหมด ที่ประชุมกกร.มองว่าควรมีการผลักดันอย่างจริงจังให้นำข้อมูลหนี้สหกรณ์และการประมาณการหนี้นอกระบบที่เชื่อถือได้ รวบรวมไว้ที่ศูนย์ข้อมูลหนี้ เพื่อให้เห็นภาพรวมของข้อมูลที่ถูกต้อง นำไปสู่มาตรการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจที่แท้จริง และมีมาตรการที่ตรงจุด ตรงกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการแก้ปัญหาเรื่องรายได้ ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาโดยองค์รวมอย่างมีประสิทธิภาพ
นายผยง กล่าวเพิ่มเติมว่าดังนั้น ที่ประชุม กกร.จึงยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 2566 ไว้ที่ 3-3.5% ส่งออกคาดว่าจะติดลบ 2-0% และเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ 2.2-2.7%
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่ามั่นใจว่าวันที่ 4 ส.ค.นี้ประเทศไทยจะได้ตัวนายกรัฐมนตรี แต่หากไม่ได้ก็เชื่อว่ายังพอมีเวลาเปิดโหวตอีกหลายครั้ง คาดว่าภายในเดือนส.ค.นี้จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ก็ต้องรอดูหน้าตาของครม เศรษฐกิจว่าเป็นอย่างไร ซึ่งผ่านมายอมรับว่า ครม.เศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยมีจุดแข็งการบริหารงานด้านเศรษฐกิจดีอยู่แล้ว
ส่วนนโยบายการขึ้นค่าแรง 600 บาท ของพรรคเพื่อไทยนั้นมองว่าเป็นนโยบายที่มีช่วงเวลาการปรับขึ้นค่าแรงนานถึง 4 ปี ซึ่งหากจะมีการปรับจริง ภาคเอกชนต้องหารือร่วมกับรัฐบาลเชื่อว่าจะสามารถยืดหยุ่นได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวดี สมาคมธนาคารไทย เตรียมลดภาระชำระหนี้ช่วยลูกค้ารายย่อย
สมาคมธนาคารไทย ร่วมมือกับภาครัฐเตรียมออกมาตรการลดภาระชำระหนี้ ช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและธุรกิจขนาดเล็ก
'อิ๊งค์' คุย กกร. ชื่นมื่น! ปลื้มอวย 'พ่อนายกฯ' แก้เศรษฐกิจเก่งสุด
นายกฯ คุย ‘กกร.’ รับข้อเสนอแก้เศรษฐกิจ จับมือเอกชนหารายได้ใหม่เข้าประเทศ ด้าน ‘สนั่น’ เชื่อมั่นรัฐบาลอิ๊งค์ พร้อมช่วยดันจีดีพีโต ชมเปาะ 'ทักษิณ' เก่งสุด
โฆษกรัฐบาลเผยทุกแบงก์เร่งเชื่อมระบบชำระเงินใน 'ดิจิทัลวอลเล็ต'
โฆษกรัฐบาล เผยความคืบหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 'สมาคมธนาคารไทย' ชี้ทุกธนาคารยินดีให้ความร่วมมือเร่งเชื่อมระบบชำระเงิน Open loop พร้อมย้ำลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ ข้อมูลไม่รั่วไหล ระวัง! อย่าเชื่อข่าวปลอม