'โฮมโปร' จับตาปัจจัยลบหลังผู้บริโภคกังวลสถานการณ์การเมือง

“โฮมโปร” ชี้ภาคธุรกิจต้องวางแผนรัดกุม เหตุผู้บริโภคกังวลสถานการณ์การเมือง รวมถึงยอดส่งออกหดตัว เผยครึ่งปียอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าพุ่งช่วงฤดูร้อน ส่งผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น หรือ 6.60%

1 ส.ค. 2566 – นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร เปิดเผยว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2 ปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัว จากการบริโภคของภาคเอกชนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยปัจจัยหลักยังคงมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีรายได้สูงขึ้นและเกิดการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังคงดูสดใส ในช่วงปลายไตรมาส 2 ผู้บริโภคยังมีความกังวลต่อผลกระทบจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางด้านการเมือง ในเรื่องความล่าช้าของการจัดตั้งรัฐบาล หลังจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา รวมถึงผลกระทบของยอดส่งออกที่ลดลงจากอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้ภาคธุรกิจยังคงต้องระมัดระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงวางแผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจที่รัดกุม และเหมาะสมอีกด้วย

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 มีผลกำไรสุทธิสำหรับครึ่งปีแรก เท่ากับ 3,230.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 199.97 ล้านบาท หรือ 6.60% โดยมีรายได้รวม 37,154.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,174.47 ล้านบาท หรือ 9.34% ซึ่งประกอบไปด้วยรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งประกอบไปด้วยรายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้ารวมจำนวน 35,012.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,932.76 ล้านบาท หรือ 9.14%

โดยการปรับตัวเพิ่มขึ้นดังกล่าว เป็นผลมาจากในช่วงไตรมาส 2 เป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย โดยในปีนี้ ค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในกลุ่มเครื่องทำความเย็นเติบโตสูงขึ้นกว่าปกติ

เพิ่มเพื่อน