กนอ.ลุยขยายพื้นที่นิคมระยอง 500 ไร่ ชี้เอกชนสนใจจองแล้ว พร้อมเตรียมเดินหน้าใช้ AI มอนิเตอร์การทำงานของอุปกรณ์-เครื่องจักร ในพื้นที่นิคมทั่วประเทศ เพื่อวางแผนการซ่อมบำรุงอย่างมีประสิทธิภาพต่อยอดระบบ “Digital Twin”
27 ก.ค. 2566 – นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรม และโรงงาน ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมกลุ่มมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ จังหวัดระยอง เริ่มที่นิคมอุตสาหกรรม อาร์ ไอ แอล ซึ่งนิคมฯ แห่งนี้ประกอบกิจการมาตั้งแต่ปี 2539 บนพื้นที่ 2,000 ไร่ โดยอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย และได้รับการตรวจประเมินเป็นนิคมอุตสาหกรรมระดับ Eco World Class ตั้งแต่ปี 2562 ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการ (EHIA) เพื่อขยายพื้นที่ในนิคมฯ ประมาณ 500 ไร่ ซึ่งขณะนี้มีนักลงทุนแสดงความสนใจเข้าจับจองพื้นที่แล้ว
“มีโอกาสได้เข้าเยี่ยมชม บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จํากัด หรือ MOC ซึ่งได้บรรยายภาพรวมการนำเทคโนโลยีมาใช้ด้านความปลอดภัย และติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมทั้งได้เดินทางไปยัง บริษัท ระยองวิศวกรรมและซ่อมบำรุง จำกัด ซึ่งบริษัทแห่งนี้พัฒนาต่อยอดเทคโนโลยี โดยใช้ AI ช่วยในการตรวจสอบการทำงานของเครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อวางแผนการซ่อมบำรุงที่มีประสิทธิภาพ และการลดต้นทุนที่เกิดความสูญเสียจากความผิดปกติของเครื่องจักร จนเกิดเป็นธุรกิจใหม่ สำหรับการนำระบบ AI มาช่วยในการทำงานของโรงงานแห่งนี้ เป็นสิ่งที่ กนอ. ให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากสอดคล้องกับระบบ Digital Twin ที่ กนอ. เริ่มนำร่องใช้ในการบริหารงานที่นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ตั้งแต่กลางปี 2565 ซึ่งโครงการแล้วเสร็จเมื่อมิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา และจะนำไปขยายผลในนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ. ต่อไป”นายวีริศ กล่าว
ทั้งนี้ ระบบ Digital Twin คือ การทำแบบจำลองเสมือนของพื้นที่อาคาร และอุปกรณ์ในอาคารในรูปแบบ 3 มิติ BIM (Building Information Modelling) ซึ่งนอกจากจะเก็บข้อมูลทรัพย์สินและอุปกรณ์ต่างๆ ในรูปแบบดิจิทัลแล้ว ยังเชื่อมโยงข้อมูล Big Data ต่างๆ เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมระบบระบายน้ำการติดตามตรวจสอบมลพิษทางอากาศของนิคมฯ การเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประกอบการจากระบบอนุมัติ-อนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลการระงับเหตุจากระบบฐานข้อมูลการระงับเหตุ ข้อมูลการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม
รวมถึงข้อมูลการระบายมลพิษจากระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศจากปล่องแบบอัตโนมัติต่อเนื่อง ข้อมูลด้านความปลอดภัยกระบวนการผลิตและสารเคมีอันตรายจากระบบการจัดการความปลอดภัยกระบวนการผลิต ตลอดจนการเชื่อมโยงระบบที่เกี่ยวข้องกับ SMART I.E. ด้วย โดยใช้ AI เป็นตัวประมวลผล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรม ด้วยการใช้ข้อมูลที่มีความถูกต้องแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมได้ทุกที่ทุกเวลา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘วีริศ’ ลุยงานตรวจความคืบหน้าโครงการรถไฟสายอีสาน
‘วีริศ’ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พร้อมรับรับฟังความคืบหน้าโครงการ ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ มอบผู้บริหารร่วมกันวางแผนการใช้ประโยชน์จากโครงการต่างๆ ให้คุ้มค่าสูงสุด ย้ำเร่งผลักดันอุตสาหกรรมระบบรางของไทย เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางในภูมิภาคอาเซียน
'กนอ.'โชว์ยอดขาย/เช่าพื้นที่ในนิคมฯ สร้างสถิตินิวไฮ 2 ปีติด
“วีริศ” โชว์ยอดขายและเช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม ทุบสถิติใหม่ (New High) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 มั่นใจประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ เชื่อแคมเปญ “NOW Thailand” ตอกย้ำศักยภาพประเทศ ในฐานะศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
'พิมพ์ภัทรา' นำทีมบุกญี่ปุ่น ศึกษาโมเดล 'นิคมอุตสาหกรรม Circular' มาปรับใช้กับไทย
“พิมพ์ภัทรา”นำทีมเยือนญี่ปุ่น 21 - 27 กรกฎาคม 2567 ปักหมุดดูงานพัฒนาการจัดตั้ง “นิคมอุตสาหกรรม Circular” พร้อมหารือกับองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมประเทศญี่ปุ่น และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan External Trade Organization : JETRO) เพื่อศึกษาแนวทางพัฒนาการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมของไทย ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่มุ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืน เศรษฐกิจหมุนเวียน และความเป็นกลางทางคาร์บอน