ททท. เปิดแผนตลาด ปี 67 เร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย พร้อมดันรายได้ท่องเที่ยวให้ประเทศรวม 3 ล้านล้านบาท ส่วนปีนี้ ยังคงรายได้รวมที่ 2.38 ล้านล้านบาท พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อน Soft Power ต่อเนื่องตามนโยบายรัฐบาล
18 ก.ค.2566-นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงทิศทาง การส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2567ว่าได้ตั้งเป้าหมายอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปี 2567 ผลักดันรายได้ในระดับใกล้เคียงกับรายได้ที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้รับในปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบนพื้นฐานของสถานการณ์ท่องเที่ยวที่มีปัจจัยเอื้ออำนวยในทุกด้าน จะมีรายได้จากการท่องเที่ยว รวมทั้งสิ้น 3 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศ 1.92 ล้านล้านบาท ดึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าไทย จำนวน 35 ล้านคน ตลาดในประเทศ สร้างรายได้หมุนเวียน 1.08 ล้านล้านบาท จากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย 200 ล้านคน-ครั้ง ขณะที่ปี 2566 ยังคงยืนยันเป้าหมายรายได้รวมที่ 2.38 ล้านล้านบาท มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย ที่ 25-30 ล้านคน
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ปี 2567 จะเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่ดีขึ้น ทั้งฝั่ง Supply และ Demand ด้วยหัวใจหลักของการสร้างระบบนิเวศใหม่ที่มีคุณค่า สมดุลและยั่งยืน พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว ก้าวสู่ High Value and Sustainable Tourism อย่างแท้จริง สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง พัฒนาห่วงโซ่อุปทานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมฯ ให้พร้อมรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ รวมทั้งกระจายรายได้สู่ฐานรากอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
ทั้งนี้ ททท.ได้วางฉากทัศน์ (Scenario) ของภาคท่องเที่ยวไทยปี 2567 ไว้ 3 กรณี โดยยึดกรณีที่ 1 ดีที่สุด หรือ Best Case คือ การสร้างรายได้รวม 3 ล้านล้านบาท ฟื้นตัว 100% แบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ 1.92 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคน และตลาดในประเทศ 1.08 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวไทย 200 ล้านคน-ครั้ง กรณีที่ 2 Base Case ฟื้นตัว 90% สร้างรายได้รวม 2.74 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ 1.73 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 32 ล้านคน และตลาดในประเทศ 1 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวไทย 185 ล้านคน-ครั้ง
และกรณีที่ 3 Worst Case ต่อให้แย่ที่สุดก็ยังเท่ากับปี 2566 คือ ฟื้นตัว 80% ของปี 2562 หรือสร้างรายได้รวม 2.4 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ 1.54 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 28 ล้านคน ซึ่งยังต้องจับตาตลาดนักท่องเที่ยวจีนว่าจะกลับมาเมื่อไร จากข้อจำกัดต่างๆ เช่น จำนวนเที่ยวบินที่แม้จะฟื้นแล้ว แต่ยังฟื้นไม่เต็มที่ และเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวเกินคาด ส่วนตลาดในประเทศ 8.6 แสนล้านบาท จากนักท่องเที่ยวไทย 158 ล้านคน-ครั้ง
ด้านนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2567 ททท. จะให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสานต่อการ “สร้างประสบการณ์ทรงคุณค่า” เพื่อส่งมอบให้กับกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีความต้องการแตกต่างกันโดยตลาดต่างประเทศ ททท. วางแผนกระตุ้นตลาดด้วย 5 ทิศทางหลัก ได้แก่ เสริมภาพลักษณ์แบรนด์ท่องเที่ยวไทยด้านความยั่งยืนและใช้เป็นจุดขายใหม่ของประเทศไทย เน้นไม่สร้างภาระ แต่สร้างสาระรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและชุมชน กระจายรายได้อย่างทั่วถึง และเสนออัตลักษณ์ท้องถิ่นเป็นจุดขาย
ทั้งนี้โดยททท. มีแนวคิดดำเนินโครงการ Kinnaree Brand Refresh ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รู้จักรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยหรือรางวัลกินรีในวงกว้าง เพื่อเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวภายใต้มาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism) รุกเปิดตลาดคุณภาพใหม่ให้ท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โฟกัสตลาดใหม่ในภูมิภาคยุโรปและตะวันออกกลาง และขยายสู่กลุ่มตลาดย่อย ซึ่งเป็นผู้มีรายได้สูง แสวงหาคู่ค้ารายใหม่และขยายความร่วมมือกับคู่ค้ารายใหญ่ในเวทีโลก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ธนกร' ฝาก รบ.เดินเครื่องกระตุ้นท่องเที่ยวโกยต่างชาติเข้าไทยทะลุ 40 ล้าน
“ธนกร” ฝาก รบ.เดินเครื่องแคมเปญกระตุ้นท่องเที่ยวต่อเนื่อง มั่นใจ โกยต่างชาติเข้าไทยรับไฮซีซันยาวถึงปี 68 ทะลุเป้า 40 ล้านคนได้ชัวร์ ดัน รายได้ประเทศพุ่ง แนะ ควบคู่นโยบายแก้หนี้-ปรับค่าจ้าง-ปราบยาเสพติด ปั้น ผลงานรัฐบาลให้ชัด เชื่อ รอบ 90 วันทำปชช.พึงพอใจเพิ่มแน่
เซเว่นฯ เปิดตัว แสตมป์เสน่ห์ไทย ให้ลูกค้าสะสม
เซเว่นฯ จับมือ ททท. สร้างปรากฎการณ์ “แสตมป์เสน่ห์ไทย ใครๆ…ก็หลงรัก” ผ่านแคมเปญสุดจึ้งแห่งปีโดยมี “โดราเอมอน” มาสร้างความสนุก ผสมผสานความเป็นไทยครั้งแรก!!! จัดใหญ่ทั่วไทย…แจกใหญ่ทั่วถึงสะสมได้ทั้งรูปแบบดวงแสตมป์ และ M-Stamp บน 7 App ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม ถึง 15 ธันวาคม 2567