แบงก์ชาติ การันตีความเชื่อมั่นยังแกร่ง การเมืองไม่กระทบแม้โหวตนายกฯ ยังไม่จบ

“แบงก์ชาติ” การันตีเชื่อมั่นยังแกร่ง การเมืองไม่กระทบแม้โหวตนายกฯ ยังไม่จบ แจงตั้งรัฐบาลล่าช้าสะเทือนเบิกจ่ายโครงการใหญ่-โครงการใหม่

16 ก.ค. 2566 – นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ยังประเมินได้ยาก เพราะมีความไม่แน่นอนสูง อีกทั้งยังไม่สามารถคาดได้ว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลจะจัดตั้งได้เมื่อไร โดยความล่าช้าที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐปี 2567 แต่งบประจำยังมีงบกลางที่ยังใช้ดำเนินการไปได้อยู่ อาจไม่ได้ติดขัดมาก

“งบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้า จะส่งผลต่อการเบิกจ่ายที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงการลงทุนภาครัฐที่ยังไม่สามารถมีโครงการใหม่ ๆ ได้” นางสาวชญาวดี กล่าว

ขณะเดียวกัน การลงทุนยังต้องรอความชัดเจนจากการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ส่วนเรื่องความเชื่อมั่นในเวลานี้เชื่อว่ายังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะดูข้อมูลเบื้องต้นก็ยังมีความเชื่อมั่นอยู่ ซึ่งจากเปรียบเทียบในอดีตที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยไม่ว่าจะมีความวุ่นวายทางการเมือง เกิดการประท้วง ก่อม็อบก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบใด ๆ มาก ยกเว้นหากเกิดความรุนแรงยืดเยื้อลากยาวจนกิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามในวันที่ 19 ก.ค.นี้ ว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย จะสามารถสำเร็จเสร็จสิ้นได้หรือไม่ ส่วนกระแสข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนโหวตนายกรัฐมนตรีจากอีกพรรคการเมืองหนึ่งนั้น ยังไม่สามารถประเมินได้ว่ามีผลต่อเศรษฐกิจไทยและความเชื่อมั่นอย่างไรหรือไม่ ต้องรอวันที่ 19 ก.ค. หรือการโหวตครั้งถัด ๆ ไป

ทั้งนี้ ธปท.ได้ทำการประเมินจากหลายกรณีไว้ทั้งหมดแล้วว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง จากปัจจุบัน ธปท.คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3.6% ในปี 2566 และขยายตัว 3.8% ในปี 2567

เพิ่มเพื่อน