เอสซีจี เดคคอร์ มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้น ลั่นบุกอาเซียนมูลค่า 7 หมื่นล้าน

เอสซีจี เดคคอร์ มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้น โชว์ 2 ปัจจัยสนับสนุนทั้งการเปิดประเทศ – การเมืองไทยชัดเจน เร่งรัฐเบิกจ่าย เผยพร้อมบุกตลาดสุขภัณฑ์อาเซียน ตีมูลค่ารวมสูงถึง 7 หมื่นล้านบาท

7 ก.ค. 2566 – นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD ซึ่งเป็นบริษัทของ เอสซีจี ในการดำเนินธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ เปิดเผยว่าภาพรวมการเติบโตของบริษัทในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 นี้คาดว่าจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก 2 กรณี ได้แก่ สถานการณ์โควิดที่คลี่คลายทำให้ประเทศไทยสามารถเปิดประเทศได้ และทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวกลับมาก็จะเป็นหนึ่งในเรื่องที่ผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจ ขณะที่อีกกรณีได้แก่การเมืองของไทย ที่ปัจจุบันเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งหากมีการจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างไม่ติดขัดและสามารถเดินหน้าโครงการต่าง ๆ ได้ต่อเนื่อง จะมีการเบิกจ่ายส่งผลให้เศรษฐกิจในประเทศกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

ขณะที่เอสซีจี เดคคอร์ จะมุ่งเน้นไปยังการค้าใน 4 ประเทศสำคัญ ได้แก่ ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็น 4 ประเทศที่มีโรงงานการผลิต โดยมองว่ากลุ่มธุรกิจสุขภัณฑ์ที่มีระบบอัตโนมัติ ซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มสมาร์ท ทอยเล็ต(Smart Toilet) รวมถึงสมาร์ท บาธรูม(Smart Bathroom) ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เช่นเดียวกับตลาดในอาเซียน คาดว่าจะมีมูลค่า 78,700 ล้านบาทในปี 2569 สูงกว่าตลาดในไทยกว่า 6 เท่าตัว จึงเป็นโอกาสของเอสซีจี เดคคอร์ ในตลาดนี้

“ยอดขายในปี 2565 เอสซีจี เดคคอร์ สามารถทำได้กว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตทางด้านยอดขายอย่างต่อเนื่องในทุกปี ซึ่งในปีนี้ก็ยังมีปัจจัยสนับสนุนที่ดี ซึ่งเชื่อว่าภาครัฐบาลเองก็ต้องเร่งกระตุ้นมาตรการต่าง ๆ ให้ออกมาเป็นตัวผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้อย่างแน่นอน”นายนำพล กล่าว

ด้าน นายสิทธิชัย สุขกิจประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามซานิทารีแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสุขภัณฑ์และก๊อกน้ำ COTTO กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินธุรกิจสุขภัณฑ์สอดรับกับกลยุทธ์หลักของ SCG Decor และความต้องการของผู้บริโภค COTTO จึงได้พัฒนาและสรรหานวัตกรรม “ดิจิทัล-ออโตเมชัน” สำหรับ Smart Bathroom จากแหล่งต่าง ๆ ทั่วโลก และได้นำระบบอัตโนมัติ หรือออโตเมชันมาใช้ควบคู่ไปกับการบริหารกำลังการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าได้รับสินค้าคุณภาพสูง ลดขั้นตอนการทำงานที่เสี่ยงต่อสุขภาพของพนักงาน ส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาทักษะและศักยภาพตนเองให้พร้อมสำหรับการขยายธุรกิจต่อไปด้วย

“COTTO ได้นำระบบออโตเมชันมาใช้ ภายใต้แนวคิด หุ่นยนต์ทำงานร่วมกับคน หรือ Man & Machine Automation Smart Factory นำความเชี่ยวชาญในการผลิตสุขภัณฑ์ มาสอน ออกแบบ และควบคุมให้หุ่นยนต์สามารถทำงานได้อย่างประณีต แม่นยำ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับสินค้าคุณภาพสูง พร้อมกับการคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขภาพของพนักงาน”นายสิทธิชัย กล่าว

อย่างไรก็ตามระบบออโตเมชันได้เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตหลัก ๆ อาทิ การขึ้นรูปหม้อน้ำสำหรับโถสุขภัณฑ์ด้วยเครื่องหล่อแรงดันสูง ที่ใช้สายพานและระบบลำเลียงอัตโนมัติ ช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บจากการทำงานในการเคลื่อนย้ายชิ้นงานด้วยแรงงานคน ระบบพ่นสีเคลือบอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์ ทำให้สีที่เรียบเนียนสม่ำเสมอได้มาตรฐานและยังช่วยลดการสัมผัส สูดดมสีของพนักงาน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้นำเทคโนโลยีชั้นสูงอื่น ๆ มาใช้ในห้องปฏิบัติการทดสอบ เช่น เทคโนโลยีการประมวลภาพ เพื่อเพิ่มความละเอียดแม่นยำในการตรวจสอบและวิเคราะห์คุณภาพสินค้าก่อนส่งถึงมือลูกค้า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จเด็จ' เสียดายแต่ไม่เสียใจ 'ช้างศึก' พ่ายจุดโทษออสเตรเลีย ศึก U-16 อาเซียน

จเด็จ มีลาภ ยอมรับว่าเขารู้สึกเสียดาย ที่ทีมชาติไทย U17 พลาดโอกาสการคว้าแชมป์อาเซียน ประจำปี 2024 ที่ประเทศอินโดนีเซีย มาครอง แต่ก็ไม่เสียใจกับผลงานโดยรวมของทีม

'ช้างศึก' สู้เต็มที่ก่อนพ่ายจุดโทษ 'ออสซี่' คว้ารองแชมป์ U-16 อาเซียน

วันที่ 3 กรกฎาคม 2567 เวลา 19.30 น. ณ มานาฮาน สเตเดียม เมืองสุราการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี รอบชิงขนะเลิศ ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติออสเตรเลีย

ไทยเฉือนซาอุฯ คว้าแชมป์เดวิสคัพโซนเอเชียฯ กอดคอเลื่อนขึ้น'เพลย์ออฟ เวิลด์กรุ๊ป2'

การแข่งขันเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย รายการ "2024 เดวิสคัพ" โซนเอเชีย/โอเชียเนีย กลุ่ม 3 ที่สนามเทนนิสของสหพันธ์เทนนิสจอร์แดน กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เข้าสู่การแข่งขันวันสุดท้าย ซึ่งจบลงเมื่อคืนวันที่ 15 มิ.ย. 2567 ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มิ.ย. ตามเวลาประเทศไทย และยังเป็นอีกวันพิเศษของทีมไทย โดย นายสุภาค โปร่งธุระ เอกอัครราชทูต ณ กรุงอัมมาน พร้อมด้วย นางศิริวรรณ โปร่งธุระ ภริยาเอกอัครราชทูต ให้เกียรติเดินทางมาร่วมชมและเชียร์นักเทนนิสทีมชาติไทย นอกจากนี้ยังมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ รวมทั้งคนไทยในจอร์แดนมาร่วมเชียร์ด้วย