กกพ. เผย 7 ก.ค. เตรียมแจงผลการคำนวณเอฟทีงวดสุดท้ายของปี

กกพ.เผย 7 ก.ค. พร้อมเปิดเวทีชี้แจงผลการคำนวณเอฟทีงวดสุดท้ายของปี เผยมีทางเลือกทั้งลดราคาและตรึงในระดับเดิม ด้านเอกชนโอดต้นทุนยังกระทบ โชว์แนวทางลดค่าไฟได้อีก

7 ก.ค. 2566 -รายงานข่าวสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า วันที่ 7 ก.ค. จะเปิดเวทีชี้แจงผลการคำนวณค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ(เอฟที) ที่จะเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนก.ย. – ธ.ค. 66 เพื่อเปิดรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชน และผู้ประกอบการ เริ่มตั้งแต่ 7 – 21 ก.ค. นี้ แบ่งเป็น 3 ทางเลือกเช่นเดิม เบื้องต้นจะมีทางเลือก ทั้งลดค่าไฟได้สูงสุดมากกว่า 20 สตางค์ต่อหน่วย หรือการจัดเก็บค่าไฟงวดใหม่จะต่ำกว่า 4.50 บาทต่อหน่วย จนถึงตรึงราคาอยู่ในระดับเดิม คือ 4.70 บาทต่อหน่วย

สำหรับตัวแปรสำคัญ คือ การผ่อนจ่ายหนี้คงค้างของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ (กฟผ.) 1.3 แสนล้านบาทว่า จะยืดการจ่ายหนี้อีกหรือไม่ ท่ามกลางกระแสข่าวการพิจารณาอัตราค่าไฟล่าสุด ยังไม่เป็นที่พอใจของภาคเอกชนมากนัก เนื่องจากเอกชนมองว่า ค่าไฟงวดใหม่ควรลดได้มากกว่า 45 สตางค์ต่อหน่วย หรือไม่ควรเกิน 4.25 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบัน 4.70 บาทต่อหน่วย ซึ่งที่ผ่านมากกพ. ระบุว่า อาจลดได้ประมาณ 20 สตางค์ต่อหน่วย

ด้านนายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน( กกร.) ได้แสดงความกังวลภาระต้นทุนของผู้ประกอบการที่อยู่ในระดับสูงมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะต้นทุนค่าไฟฟ้าและชี้ว่าหากพิจารณาจากปัจจัยที่นำมาคำนวณค่าเอฟทีแล้ว พบว่า มีปัจจัยบวกให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้กว่า 10% จากงวดที่ 2 (พ.ค.-ส.ค. 66) คาดว่า ไม่ควรเกิน 4.25 บาทต่อหน่วย จากเดิม 4.70 บาทต่อหน่วย เนื่องจากปริมาณก๊าซจากอ่าวไทยโดยเฉพาะจากแหล่งเอราวัณทยอยเพิ่มจาก 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็น 400 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน ในเดือน ก.ค. และเพิ่มเป็น 600 ล้านลบ.ฟุตต่อวันในเดือนธ.ค.นี้

ขณะที่ปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจีลดลง , ราคาแอลเอ็นจี สปอท ลดลงมากกว่า 30% , ราคาพลังงานโลก มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และภาระหนี้ของกฟผ. ทั้งงวดที่ 1 และงวดที่ 2 ลดลงเร็วกว่าแผนด้วยต้นทุนจริง ราคาแอลเอ็นจีต่ำกว่าที่เรียกเก็บ แม้ว่า ค่าเงินบาทยังอ่อนค่าในระดับ 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตามกกร. ได้เสนอภาครัฐให้พิจารณาขยายเวลาการคืนหนี้ให้ กฟผ. จาก 5 งวด เป็น 6 งวด เพื่อให้ค่าเอฟทีลดลงอีก 10 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งกฟผ. จะได้รับเงินคืนครบภายในเดือนส.ค. 68 , ขอให้มีการบูรณาการในการจัดหาเชื้อเพลิงแอลเอ็นจี มอบหมายผู้นำเข้าหลักเพียงรายเดียว ในการจัดหาเพื่อเป็นการสกัดดีมานด์เทียมจากชิปเปอร์หลายรายที่เข้าจัดหาในตลาด สำหรับนำมาผลิตไฟฟ้าในงวดใหม่ ให้ได้ราคาที่เหมาะสมตามกลไกตลาด และไม่ให้ประเทศเสียเปรียบ

โดยการจัดหาในราคาเฉลี่ยแอลเอ็นจี ช่วง 14-16 เหรียญต่อล้านบีทียู ซึ่งกกร. มีความกังวลว่า หากเข้าสู่ฤดูหนาวจะทำให้ราคาแอลเอ็นจี ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากความต้องการใช้พลังงานในโลก โดยกกร.จะมีหนังสือ ถึงนายกรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการต่อไปเร็วๆนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พพ. ยันอีกเสียงเปิดแอร์ 27 องศา + เปิดพัดลม ชี้ช่วยประหยัดไฟจริง

กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) แจงกรณีผู้ใช้ TiktoK โพสต์ เปิดแอร์ 27 องศาและเปิดพัดลมแล้วค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ชี้ไม่สมเหตุสมผลและขาดข้อมูลตัวแปรอื่นๆ ยันการเปิดแอร์ที่ 27 องศาเซลเซียส พร้อมเปิดพัดลม ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้ามากกว่าเปิดแอร์ที่ 25 องศาเซลเซียส พร้อมแนะวิธีเช็คตัวแปรทำค่าไฟแพง

กกพ. ตรึงค่าเอฟที 39.72 สตางค์/หน่วย ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเฉลี่ย 4.18 บาท/หน่วย ถึง ส.ค. 67

กกพ. ประกาศตรึงค่าเอฟที 39.72 สตางค์/หน่วย ขณะที่ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเฉลี่ยอยู่ที่ 4.18 บาท/หน่วย จนถึงเดือน ส.ค. 67

บอกต่อ 5 ข้อดีของการจ่ายบิลค่าไฟฟ้าผ่านทางออนไลน์

ในยุคดิจิทัลการทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์กำลังเป็นที่นิยม การจ่ายบิลค่าไฟฟ้า ก็เช่นกัน เนื่องจากในปัจจุบันสามารถจ่ายบิลไฟฟ้าทางออนไลน์ได้จากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันขอการไฟฟ้าเองก็ตาม นั่นจึงทำให้การจ่ายบิลค่าไฟฟ้าออนไลน์สะดวก