คปภ. สั่งปรับอาคเนย์ประกันภัยปมประวิงจ่ายค่าสินไหม 'น้องหญิง'

คปภ. สั่งปรับอาคเนย์ประกันภัย ปมประวิงจ่ายค่าสินไหม “น้องหญิง” กรณีเสียชีวิตเหตุรถเบนซ์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ที่บุรีรัมย์

8 ธ.ค. 2564 นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากที่ปรากฏเป็นข่าวที่ประชาชนสนใจเป็นอย่างมาก กรณีรถยนต์คันเอาประกันภัยไว้กับบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์เป็นเหตุให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต ที่จังหวัดบุรีรัมย์ และศาลจังหวัดบุรีรัมย์มีคําพิพากษาถึงที่สุด ตามคดีหมายเลขแดงที่ อ 1606/2564 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ว่าผู้เอาประกันภัยซึ่งขับขี่รถยนต์คันเอาประกันภัยกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนนทบุรี มีหนังสือแจ้งบริษัทประกันภัยให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนแล้ว แต่บริษัทดังกล่าวโต้แย้งในข้อเท็จจริง จนต่อมามารดาของผู้เสียชีวิตได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงาน คปภ. ส่วนกลาง และสำนักงานฯ ได้มีหนังสือแจ้งความเห็นให้บริษัทฯ พิจารณาทบทวน ดำเนินการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แต่บริษัทยังยืนยันปฏิเสธการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แม้ทราบว่าศาลมีคําพิพากษาถึงที่สุดแล้ว


เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน คปภ. ได้นำกรณีดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะทำงานเสนอแนวทางการกำหนดเกณฑ์ความผิดต่อเนื่องที่มีโทษปรับรายวัน ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 และได้นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการเปรียบเทียบ ครั้งที่ 5/2564 วันที่ 7 ธันวาคม 2564 คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาจากพยานหลักฐานอย่างรอบคอบ และเปิดโอกาสให้บริษัทชี้แจงข้อเท็จจริงแสดงเหตุผล ตลอดจนให้นำส่งพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับการปฏิเสธไม่ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน อันถือเป็นการให้ความเป็นธรรมในกระบวนการพิจารณาคดีความผิด พบว่าถ้อยคำโต้แย้งของบริษัทฯ ที่ปรากฏในชั้นการร้องเรียนค่าสินไหมทดแทนกับชั้นการชี้แจงข้อกล่าวหาต่อสำนักงานฯ มีข้อความขัดแย้งกันหลายประการ


การที่บริษัทยังคงปฏิเสธการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนภายหลังศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด โดยกล่าวอ้างว่า ผู้ขับขี่รถยนต์คันเอาประกันภัยมิได้เป็นฝ่ายประมาท โดยไม่มีหลักฐานการโต้แย้งที่ชัดเจนและไม่มีน้ำหนักเพียงพอ จึงไม่สามารถรับฟังได้ ประกอบกับคำสั่งนายทะเบียนที่ 66/2563 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 เรื่อง ให้ใช้คู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ คู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ หมวดการคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก กำหนดให้บริษัทมีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความสูญเสีย หรือความเสียหายอย่างใด ๆ ต่อบุคคลภายนอก เมื่อผู้เอาประกันภัยเกิดความรับผิดชอบตามกฎหมาย ดังนั้น เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่า ผู้ขับขี่รถยนต์คันเอาประกันภัยมีความผิดฐานกระทำโดยประมาท จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ตายมีส่วนประมาทแต่อย่างใด บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้รับประกันภัยค้ำจุน จึงมีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิต


ทั้งนี้ พระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีเจตนารมณ์ในการรักษาเสถียรภาพธุรกิจประกันของไทยให้มีความมั่นคง ซึ่งต้องตั้งอยู่บนความเชื่อมั่นของประชาชน โดยเรื่องร้องเรียนนี้มีประเด็นความขัดแย้งระหว่างบริษัทประกันภัยกับผู้เอาประกันภัยที่บริษัทฯ ไม่อาจชี้ชัดหรือพิสูจน์ให้ชัดแจ้งได้ ทำให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการปฏิเสธการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้สูญเสีย ไม่ได้รับการเยียวยาจากความขัดแย้งที่บริษัทฯ หยิบยกขึ้นมา ทั้งที่กระบวนการยุติธรรมทางอาญามีคำตัดสินบนข้อเท็จจริงอันเป็นที่สุดแล้ว เช่นนี้ย่อมกระทบต่อความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อธุรกิจประกันวินาศภัยในภาพรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การกระทำของบริษัทฯ จึงเป็นการจงใจฝ่าฝืนข้อตกลงแห่งสัญญาประกันภัย หรือข้อกำหนดหรือกฎเกณฑ์ใด ๆ ที่มีความชัดเจน ให้บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย อันเป็นความผิดฐานประวิงการจ่าย ค่าสินไหมทดแทน ตามมาตรา 36 อันมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม คณะกรรมการเปรียบเทียบฯ จึงมีมติให้เปรียบเทียบปรับบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในอัตราโทษสูงสุดเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 1,858,400 บาท และปรับรายวัน วันละ 20,200 บาท จนกว่าจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิต


“ความผิดฐานประวิงการจ่ายค่าสินไหมเป็นโทษปรับทางอาญา ซึ่งในเรื่องนี้สำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินการด้วยความรอบคอบ โดยรับฟังพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย พร้อมได้ส่งทีมงานลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ ตรวจสอบพยานหลักฐานต่าง ๆ อย่างครบถ้วน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายและเพื่อให้การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยเป็นไปอย่างถูกต้อง และเป็นธรรม ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่าสำนักงานฯ จะดูแลคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัยอย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูล สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ website : www.oic.or.th” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งามไส้! คุก 2 เดือน 'ลูก รมต.' เมาขับฝ่าด่าน

นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลเเขวง 1

ตร. เตือนห้ามขายเหล้าวันมาฆบูชา ฝ่าฝืนคุก 6 เดือน ปรับ 1 หมื่น

พ.ต.อ.หญิง ฉันฉาย รัตนพานิช รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือวันมาฆบูชา และมีวันหยุดชดเชยรวม 3 วัน

คปภ. เห็นชอบสั่ง ‘บมจ. สินมั่นคงประกันภัย’  หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว

คณะกรรมการ คปภ. เห็นชอบให้นายทะเบียนสั่ง “บมจ. สินมั่นคงประกันภัย” หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราวคุมเข้มให้บริษัทหยุดรับประกันภัย ภายหลังศาลมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 เลขาธิการ คปภ. สั่งมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคมิให้เดือดร้อน