ทอท. ขีดเส้น 15 วันสรุปเหตุทางเลื่อนดูดขาผู้โดยสาร

ทอท. ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ขีดเส้น 15 วันรู้ผล ยังปิดทางเลื่อน 20 ตัว 1 เดือน ยันทางเลื่อนมีการซ่อมบำรุงรักษาใหญ่มาตั้งแต่ปี 58 และดูแลต่อเนื่องทุก 3เดือน ส่วนการเยียวยา ค่ารักษา เงินเยียวยา พร้อมดูแลรับผิดชอบไม่มีข้อยกเว้น

2 ก.ค.2566-นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ (ผอญ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์อุบัติเหตุทางเลื่อนภายในสนามบินดอนเมืองดูดขาผู้โดยสารขณะกำลังใช้งาน ว่าทอท. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีอุบัติเหตุทางเลื่อนท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) แล้ว มีเรืออากาศเอก ธรรมาวุธ นนทรีย์ รองกรรมการ ผู้อํานวยการใหญ่ (สายงานมาตรฐานท่าอากาศยานและการบิน) ทอท. เป็นประธาน 

สำหรับคณะกรรมการชุดนี้ประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงคมนาคม, สภาวิศวกร, วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.), บริษัท บริษัท  สยามฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์ จำกัด และญาติผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน 

นายกีรติ กล่าวว่าผู้บริหารทาง ทอท. ได้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ โดยขณะนี้ผู้บาดเจ็บยังอยู่ในห้องปลอดเชื้อ หลังการผ่าตัด และแจ้งญาติไปว่า ทอท.พร้อมดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดรวมถึงหากมีการรักษาต่อเนื่อง นอกจากนี้ทอท.เสนอเรื่องค่าเยียวยาเบื้องต้นได้หารือกับญาติผู้บาดเจ็บ ขณะนี้อยู่ระหว่าการพิจารณาของญาติ และทุกขั้นตอนทอท.จะเข้าไปดูแลค่าใช้จ่ายร่วมกับประกัน

อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเลื่อนที่ ทดม. ทั้ง 20 ตัว ยังคงปิดให้บริการอีกประมาณ 1 เดือน โดยในระหว่างนี้จะมีรถกอล์ฟคอยบริการรับส่งผู้โดยสารที่ไม่สะดวกในการเดินระยะไกล อาทิ ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องการเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น ทอท. ได้พูดคุยกับทางญาติผู้เสียหายแล้ว ยังอยู่ในกระบวนการการเจรจา และยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขค่าเยียวยาได้ เบื้องต้น ทอท. จะดูแลรับผิดชอบทั้งค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด และค่าเยียวยาความสูญเสีย

สำหรับทางเลื่อนที่เกิดอุบัติเหตุนั้น เพิ่งมีการซ่อมบำรุงใหญ่ และเปลี่ยนอุปกรณ์เมื่อปี 58 ซึ่งที่ผ่านมายืนยันว่าได้มีการดูแลรักษา และตรวจเช็กอย่างต่อเนื่อง ทั้งรายวัน รายเดือน ราย 3 เดือน และรายปี ทั้งนี้คงต้องรอดูผลสอบข้อเท็จจริงก่อน หากพบว่า เกิดจากความบกพร่องของอุปกรณ์ ทางบริษัท ฮิตาชิฯ ในฐานะผู้รับติดตั้งระบบ และการดูแลบำรุงรักษา ก็ต้องรับผิดชอบด้วย โดย ทอท. จะดำเนินการทางกฎหมาย และแจ้งไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการกับบริษัทนี้ต่อไป เพราะตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐนั้น ทอท. ไม่สามารถขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) ได้ เนื่องจากการจะติดแบล็กลิสต์ได้นั้น ต้องเป็นบริษัทที่ทิ้งงาน