
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ชี้เป้าไทยส่งออก “ผลไม้กระป๋อง” เจาะตลาดจีน หลังพบมีโอกาสแทรกเข้าไปในตลาดได้ เหตุจีนยังผลิตได้ไม่เพียงพอ แม้ปัจจุบันจะมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารกระป๋อง และส่งออกได้มากขึ้น
30 มิ.ย. 2566 – นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจาก น.ส.นันท์นภัส งามแม้น ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงแนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องของจีน และโอกาสในการส่งออกอาหารกระป๋องของไทยเข้าสู่ตลาดจีนเพื่อทดแทนในส่วนที่จีนยังไม่สามารถผลิตได้
โดยทูตพาณิชย์รายงานว่า ข้อมูลเผยจากสมาคมอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องของจีน ระบุว่า ในปี 2565 ปริมาณและมูลค่าการส่งออกสินค้าอาหารกระป๋องในจีนแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี โดยจีนมีปริมาณการส่งออกสินค้าอาหารกระป๋องสูงถึง 3.125 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 12% มูลค่า 6,890 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22% ในจำนวนนี้ สินค้าอาหารกระป๋องประเภทผักและผลไม้มีสัดส่วนการส่งออกสูงสุด และอาหารสำเร็จรูปกระป๋องและเห็ดกระป๋อง ก็มีอัตราการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับตลาดภายในประเทศของจีน พบว่า ผู้บริโภคบางรายยังคงมีอคติต่ออาหารกระป๋อง จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่อุตสาหกรรมกระป๋องหลายแห่งนิยมการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ แต่ด้วยปัจจุบันความต้องการอาหารสำหรับคนเดียว ประกอบกับวิถีชีวิตที่เร่งรีบของคนยุคใหม่ ส่งผลให้ผู้บริโภคหนุ่มสาวจำนวนมากเริ่มยอมรับในอาหารกระป๋องเพิ่มมากขึ้น อาหารกระป๋องในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผัก ผลไม้หรือเนื้อสัตว์เท่านั้น แต่ยังเริ่มมีในรูปแบบอาหารสำเร็จรูปที่เพียงแค่เปิดแล้วอุ่น ก็พร้อมรับประทานเหมือนอาหารที่ทำเสร็จใหม่ ทำให้อุตสาหกรรมมีการพัฒนาอาหารกระป๋องให้มีความสมบูรณ์แบบเพิ่มมากขึ้น และเข้มงวดกับความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งการปรับปรุงมาตรฐาน การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการผลิต
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจีนจะเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าอาหารกระป๋องขนาดใหญ่ โดยตลาดส่งออก
ที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐฯ รัสเซีย เยอรมนี และ ญี่ปุ่น เป็นต้น แต่สินค้าอาหารกระป๋องบางชนิด จีนยังต้องพึ่งพาการนำเข้า โดยเฉพาะสินค้าผลไม้กระป๋องที่จีนไม่มีความหลากหลายในการผลิต อาทิ เงาะกระป๋อง ลำไยกระป๋อง และลูกตาลกระป๋อง เป็นต้น จึงเป็นโอกาสสำหรับผลไม้กระป๋องจากไทยที่มีโอกาสในการขยายตลาดเข้าสู่จีนได้เพิ่มขึ้น
ในปี 2565 ที่ผ่านมา จีนนำเข้าผลไม้กระป๋อง มูลค่า 165 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 15.39% โดยจีนนำเข้าผลไม้กระป๋องจากไทยมูลค่าสูงสุดอยู่ที่ 42 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.45% คิดเป็นสัดส่วน 25.55% ของ การนำเข้าทั้งหมดของจีน รองลงมา คือ เกาหลีใต้ มีมูลค่า 41 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 24.82% และฟิลิปปินส์ มูลค่า 37 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 22.76% ตามลำดับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘พาณิชย์’ เผยน้ำตาลไทยมีโอกาสขายในจีนเพิ่ม
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยน้ำตาลไทย มีโอกาสขายจีน หลังผลิตได้ไม่เพียงพอความต้องการ และต้องนำเข้า แนะต้องควบคุมคุณภาพ มาตรฐาน นำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า
พาณิชย์หนุนผู้ผลิตคอนเทนต์ ซีรีส์วายไทย ยกระดับสู่ตลาดโลก
DITP จับมือ สมาคมส่งเสริมคอนเทนต์ วาย ไทย แลกเปลี่ยน MOU ยกระดับดิจิทัลคอนเทนต์ไทยสู่ตลาดโลก
เฮ นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เข้าไทยทะลุ 22 ล้านคน
‘เสริมศักดิ์’ โชว์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เข้าไทยทะลุ 22 ล้านคน จีนครองแชมป์ 4.55 ล้านคน สร้างสร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 1 ล้านล้านบาท