กนอ.โรดโชว์นาโกย่าหวังดึงเงินลงทุนแดนปลาดิบ 3.7 พันล้าน!

ผู้ว่าฯ กนอ.โรดโชว์นำ 10 นิคมอุตสาหกรรมโรดโชว์นาโกย่า ตั้งเป้าดึงนักลงทุน 3,700 ล้านบาท ขาย/เช่าพื้นที่ 200 ไร่ เผยญี่ปุ่นกลุ่มเหล็ก-พลังงานทดแทน –ชิ้นส่วนยานยนต์-แบตเตอรี่สนใจขยายฐานการผลิต

28 มิ.ย.2566 - ที่เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)  เปิดเผยระหว่างนำคณะผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมจาก 10 แห่ง คือ นิคมอมตะ, นิคมดับบลิวเอชเอ ,นิคมเอเชียสุวรรณภูมิ , นิคมแพรกษา , นิคมโรจนะแหลมฉบัง , นิคมเอส อ่างทอง, นิคมเอเชีย คลีน ชลบุรี , นิคมเอ็กโก ระยอง , นิคมเกตเวย์ ซิตี้ และนิคมอุบลราชธานี ร่วมกิจกรรมส่งเสริมการลงทุน (โรดโชว์) 

นายวีริศกล่าวว่า เมืองนาโกย่าเป็นเมืองอุตสาหกรรมสำคัญ มีมูลค่าเศรษฐกิจสูง มีท่าเรือที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด รวมทั้งเป็นเมืองสำคัญในภาคอุตสาหกรรมสายการผลิตรถยนต์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม วิศวกรรมหุ่นยนต์ และยานอวกาศ และเป็นที่ตั้งของบริษัทผลิตยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่น เช่น โตโยต้า ซูซูกิ และฮอนด้า มอเตอร์ เพื่อดึงฐานการผลิตไปยังนิคมฯ ในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งเบื้องต้นมีนักลงทุนจากเมืองนาโกย่า สนใจเข้าไปขยายฐานการผลิตในไทย เช่น อุตสาหกรรมเหล็ก พลังงานทดแทน ชิ้นส่วนยานยนต์ และแบตเตอรี่ เพราะรัฐบาลไทย มีนโยบายสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวีชัดเจน ทำให้นักลงทุนมีความสนใจลงทุนเข้าไปลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่ง กนอ.ได้ยืนยันกับนักลงทุนญี่ปุ่นว่า ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลปัจจุบัน หรือรัฐบาลใหม่ยังเดินหน้าโครงการอีอีซีต่อเนื่อง และ กนอ.จะร่วมเดินหน้าผลักดันโครงการอีอีซี โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน ให้เป็นไปตามเป้าหมายปลายปีหน้า                        

“ได้จัดสัมมนาส่งเสริมการลงทุน รวมถึงนำเสนอข้อมูลปัจจุบันของพื้นที่การลงทุนในประเทศไทย ศักยภาพและความพร้อมรองรับการลงทุน ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ความพร้อมของนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี  และพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนหรือเอสอีซี  ซึ่ง กนอ.ให้ความสำคัญกับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายเอสเคิร์พ และนิวเอสเคิร์พ  รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก เพื่อชักจูงให้มาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่บริษัทญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญ”ผู้ว่าฯกนอ.กล่าวย้ำ

นายวีริศกล่าวต่อไปว่า สำหรับความต้องการของนักลงทุนญี่ปุ่น จากการสำรวจขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) เรื่องความต้องการพลังงานหมุนเวียน เพื่อรองรับมาตรการปรับภาษีคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดนของสหภาพยุโรป (ซีแบม)นั้น ได้ชี้แจงไปว่าประเทศไทยให้ความสำคัญในเรื่องพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง กนอ. มีแผนผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ลอยน้ำ หรือโซลาร์โฟตติ้ง จากอ่างเก็บน้ำของกน อ. แต่ยังติดปัญหาเรื่องการเชื่อมระบบการจ่ายไฟ โดยอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (พีอีเอ) และ กนอ.ยังมีแผนพัฒนาพลังงานสะอาด เช่น พลังงานจากโซลาร์เซล พลังงานจากลม ซึ่งเป็นการผลิตไฟฟ้าจากนอกนิคมฯ 600 เมกกะวัตต์ อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือกกพ.        

ผู้ว่าฯกนอ.กล่าวย้ำว่า อนปัจจุบันนักลงทุนญี่ปุ่น ยังคงเป็นอันดับ 1 ของการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม มีจำนวน 1,951 ราย มูลค่าการลงทุนรวม  3.1 ล้านล้านบาท จากมูลค่าลงทุนทั้งหมด 12 ล้านล้านบาท  ซึ่งกว่า 70% ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี มีกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก คือ 1.อุตสาหกรรมยานยนต์ และการขนส่ง 2.อุตสาหกรรมเหล็ก และผลิตภัณฑ์โลหะ  3.อุตสาหกรรมเครื่องยนต์ เครื่องจักร และอะไหล่ 4.อุตสาหกรรมยาง พลาสติก และหนังเทียม  และ 5.อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือวิทยาศาสตร์

“เป้าหมายการโรดโชว์ครั้งนี้ หวังดึงดูดนักลงทุน 3,700 ล้านบาท ขาย/เช่าพื้นที่ 200 ไร่”ผู้ว่าฯ กนอ.ระบุ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง