เคทีซี ผนึก แอนท์ กรุ๊ป รับชำระเงินข้ามชาติ รองรับนักท่องเที่ยวจีน มาเลเซีย เกาหลีใต้และฮ่องกง
27 มิ.ย. 2566 นางสาวเนาวรัตน์ กีรติเกษมสุข ผู้บริหารสูงสุด สายงานบริหารร้านค้าสมาชิก “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า “เคทีซีได้พัฒนาความร่วมมือกับแอนท์ กรุ๊ป เจ้าของและผู้ให้บริการอาลีเพย์ (Alipay) และหนึ่งในผู้นำแพลตฟอร์มชำระเงินดิจิทัลระดับโลก “อาลีเพย์พลัส (Alipay+)” ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าในไทยสามารถรับชำระเงินผ่านโมบายล์วอลเล็ตได้หลากหลาย โดยผู้ประกอบการร้านค้าเคทีซีมีสามารถเชื่อมต่อระบบเพียงครั้งเดียวก็สามารถเข้าถึงผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียได้มากถึง 1 พันล้านคน อีกทั้งยังสะดวก รวดเร็วกว่าการเชื่อมต่อกับโมบายล์วอลเล็ตของแต่ละประเทศแบบหนึ่งต่อหนึ่ง หากลูกค้ามีโมบายล์วอลเล็ตในระบบนิเวศน์ของอาลีเพย์พลัส เมื่อเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย จะสามารถใช้โมบายล์วอลเล็ตของประเทศตัวเองชำระเงินกับร้านค้าเคทีซีในไทยได้ทันที”
“ปัจจุบันร้านค้าสมาชิกเคทีซี สามารถรับชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยคิวอาร์โค้ดของโมบายล์วอลเล็ตที่อยู่ในระบบนิเวศน์ของอาลีเพย์พลัส อาทิ Alipay (สำหรับชาวจีน) ที่เปิดตัวในไทยตั้งแต่ปี 2558 และล่าสุดกับโมบายล์วอลเล็ตใหม่อีก 3 ราย ได้แก่ AlipayHK (เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน) / KakaoPay (เกาหลีใต้) และ Touch ‘n Go eWallet (มาเลเซีย) โดยทั้ง 4 โมบายล์วอลเล็ต ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมเดินทางมาประเทศไทยมากที่สุด 4 อันดับแรก ได้แก่ นักท่องเที่ยวมาเลเซีย จีน เกาหลีใต้และฮ่องกง รวม 2.9 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยทั้งหมด 8.6 ล้านคนในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-เมษายน 2566 ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา)”
“เคทีซีและแอนท์ กรุ๊ป ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2558 เริ่มต้นด้วยบริการรับชำระเงินด้วย Alipay (สำหรับชาวจีน) และล่าสุดเราได้ต่อยอดความร่วมมือด้วยอาลีเพย์พลัส ซึ่งจะช่วยให้ร้านค้าเคทีซีสามารถรับชำระเงินดิจิทัลได้หลากหลายยิ่งขึ้น พร้อมความสะดวกและปลอดภัยเป็นสำคัญ อีกทั้งร้านค้าสมาชิกเคทีซีที่รับชำระด้วยอาลีเพย์พลัส จะได้รับสิทธิประโยชน์ร่วมรายการส่งเสริมการขาย “Alipay+ Scan for offer” โดยลูกค้าโมบายล์วอลเล็ตของ อาลีเพย์พลัสจะได้รับโปรโมชันต่างๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายให้กับร้านค้าเช่นกัน โดยครึ่งปีหลังผู้ประกอบการธุรกิจที่รับชำระด้วยอาลีเพย์พลัสของเคทีซี ได้แก่ คิง เพาเวอร์ (King Power) เดอะมอลล์กรุ๊ป (The Mall Group) บู้ทส์ ประเทศไทย (Boots Thailand) และตามด้วยร้านค้าอีกมากมาย”
นายสิทธิพงษ์ กิตติประภาพงศ์ ผู้จัดการทั่วไปด้าน Global Merchant Partnership ประจำประเทศไทยบริษัทแอนท์กรุ๊ป กล่าวว่า “เราได้ร่วมมือกับเคทีซีอย่างต่อเนื่อง และเสริมความแกร่งของการเป็นพันธมิตรในครั้งนี้โดยการนำเอาอาลีเพย์พลัส (Alipay+) เข้าไปใช้กับเครือข่ายร้านค้าของเคทีซี และสนับสนุนการใช้งานดิจิทัลของธุรกิจไทย นักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตอนนี้สามารถเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งและวิธีการชำระเงินที่ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่ คิง เพาเวอร์ และห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์กรุ๊ป ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรของเราในประเทศไทย เราจะยังช่วยให้ธุรกิจท้องถิ่นในประเทศเชื่อมต่อกับนักท่องเที่ยวนานาชาติ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ และพัฒนาประสบการณ์ท่องเที่ยวให้ดีขึ้น”
อาลีเพย์พลัส (Alipay+) เป็นชุดบริการชำระเงินดิจิทัล และโซลูชันการตลาดระหว่างประเทศที่ออกแบบมาเพื่อเปิดโอกาสให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับธุรกิจเอสเอ็มอีในการดำเนินการชำระเงินผ่านมือถือได้หลากหลายรูปแบบ บริการของเราช่วยสนับสนุนธุรกิจเหล่านี้เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคระดับภูมิภาค และระดับโลกกว่า 1,000 ล้านราย ผ่านการทำงานที่ง่ายและเสร็จสิ้นภายในครั้งเดียว (one-time integration) อาลีเพย์พลัส ยังนำเสนอ Alipay+ D-store และโซลูชันการตลาดอื่นๆ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการร้านค้าสามารถเข้าถึง และมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคตั้งแต่ก่อนเดินทางตลอดจนสิ้นสุดการเดินทาง ด้วยอาลีเพย์พลัส นักท่องเที่ยวสามารถชำระเงินด้วยโมบายล์วอลเล็ตที่คุ้นเคยในประเทศตนเอง พร้อมอัตราแลกเปลี่ยนที่แข่งขันได้
นางกันยารัตน์ โชคอุ่นกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานกลยุทธ์และการเงิน เดอะมอลล์กรุ๊ป กล่าวว่า “ขอชื่นชมเคทีซีที่มีวิสัยทัศน์ ในการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ทำให้เคทีซีมีภาพลักษณ์ของผู้ให้บริการทางการเงินที่ทันสมัย และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี และขอบคุณที่ให้เกียรติกลุ่มเดอะมอลล์ร่วมเป็นพันธมิตร ในการนำระบบชำระเงินล่าสุดอย่างอาลีเพย์พลัสเข้ามาให้บริการแก่ลูกค้าของกลุ่มเดอะมอลล์และบริษัทในเครือ”
“เดอะมอลล์ เป็นผู้ประกอบธุรกิจชั้นนำด้านรีเทล มีลูกค้าใช้บริการทั้งคนไทยและนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่การเดินทางท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง การสร้างประสบการณ์การ ช้อปปิ้งที่น่าประทับใจ และการให้บริการที่สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย จึงเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งความร่วมมือกับเคทีซีในครั้งนี้ เป็นการเปิดช่องทางการชำระเงินให้กับลูกค้าของเรา สามารถเข้าถึงและใช้บริการ อาลีเพย์พลัสได้สะดวกและรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ของอาลีเพย์พลัส และมาตรฐานความปลอดภัยที่มากกว่าเคย เราจึงเชื่อมั่นว่าจะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี และยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับเคทีซีในครั้งนี้ เพื่อยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าในโลกเทคโนโลยีแห่งอนาคต เพื่อมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จร่วมกัน และเราเชื่อว่า ความร่วมมือนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนต่อไป”
นางสาวเนาวรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในช่วงเดือน 5 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-พฤษภาคม 2566)ธุรกิจร้านค้ารับชำระด้วยบัตรเครดิต และวอลเล็ตอาลีเพย์ของเคทีซี มีปริมาณรับชำระเพิ่มขึ้น 27% คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาท ตามแนวโน้มเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และคาดสิ้นปี 2566 ปริมาณยอดรับชำระด้วยบัตรเครดิต / วอลเล็ตอาลีเพย์และอาลีเพย์พลัสของเคทีซีจะเติบโตได้ 20% ตามเป้าหมาย โดยจะมุ่งขยายฐานร้านค้าทั้งการรับชำระด้วยบัตรเครดิต อาลีเพย์ และอาลีเพย์พลัส เพื่อตอบโจทย์การรับชำระข้ามประเทศให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งในกรุงเทพฯ และพื้นที่เป้าหมายของนักท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ พัทยา ชลบุรี ภูเก็ตและหาดใหญ่ เป็นต้น ด้วยจุดเด่นของบริการรับชำระเงินเคทีซีที่ปลอดภัย สะดวก และที่สำคัญคือร้านค้าสมาชิกเคทีซีจะได้รับเงินในวันถัดไป (T+1) พร้อมบริการดูแลร้านค้าทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง (24×7) นอกจากนี้เคทีซีให้ความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัยของข้อมูลร้านค้าและผู้เกี่ยวข้อง ด้วยมาตราฐานการจัดการความปลอดภัยของข้อมูล ISO/IEC 27001: 2013 และมาตรฐานการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ISO/IEC 27701: 2019 อีกด้วย”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลปลื้มยอดจองโรงแรมช่วงคริสต์มาสพุ่ง 87%
'ศศิกานต์' เผยยอดจองโรงแรมไทยช่วงคริสต์มาสพุ่ง 87% - กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต ครองใจนักท่องเที่ยวต่างชาติ
รบ.เปิดตัวเลขนักท่องเที่ยว 11 เดือนปี 67 เข้าไทยทะลุ 32 ล้านคน
รบ.เปิดตัวเลขนักท่องเที่ยว 11 เดือน เข้าไทยทะลุ 32 ล้านคนแล้ว จีนยังครองอันดับ 1 ส่วนชาวมาเลฯชื่นชอบเที่ยวไทยมากกว่า 4.6 ล้านคน
รัฐบาลชี้งานวิจัย Agoda เผย กม.สมรสเท่าเทียมจะทำไทยมีนักท่องเที่ยวพุ่ง
'ศศิกานต์' เผยงานวิจัย Agoda ชี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมไทยบังคับใช้ ม.ค.นี้ คาดดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มอีก 4 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้กว่า 6 หมื่นล้านบาท – เพิ่มงานกว่า 76,000 ตำแหน่ง
รวบแล้ว 9 หนุ่มนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ซิ่งป่วนเมืองภูเก็ต
สภ.ฉลอง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2567 เวลา 01.04 น. มีพลเมืองดีได้แจ้ง ศูนย์ 191 มีชายชาวต่างชาติรวมกลุ่มรถประมาทหวาดเสียว