“ธนินท์ เจียรวนนท์” นักธุรกิจชั้นนำจากไทย ขึ้นเวทีนักธุรกิจชาวจีนโลก ครั้งที่ 16 แนะนักธุรกิจจีนโพ้นทะเลขยายโอกาสการลงทุน ย้ำไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน มีศักยภาพเติบโตสูง ชูเทคโนโลยีหนุนอุตสาหกรรมการผลิต
26 มิถุนายน 2566 – เครือเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพี ชวนนักธุรกิจชาวจีนจากทั่วโลกเข้ามาลงทุนในไทย หลังจากที่ได้บินข้ามทวีปชวนฝรั่งเศสลงทุนในไทย ล่าสุด นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ นักธุรกิจไทยชื่อดัง ในฐานะนายกสมาคมนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประธานกิตติมศักดิ์ผู้ทรงเกียรติหอการค้าไทย-จีน ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก (World Chinese Entrepreneurs Convention-WCEC) ครั้งที่ 16 ภายใต้ธีม “ร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยภูมิปัญญานักธุรกิจจีน” ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 24-26 มิถุนายน 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โดยมีนักธุรกิจชาวจีนจากทั่วโลกกว่า 4,000 คนร่วมประชุม
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลง และมีความไม่แน่นอน นักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลจะต้องเป็นผู้ที่มองเห็นโอกาสจากวิกฤต เพราะในวิกฤตจะมีโอกาส ต้องวิเคราะห์โอกาส จะคว้าโอกาสนั้นได้อย่างไร ซึ่งโอกาสเกิดขึ้นการลงทุนและการพัฒนาศักยภาพของเทคโนโลยี ตัวอย่างในอดีตที่ผ่านมาคือการลงทุนของญี่ปุ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ที่นำมาซึ่งเทคโนโลยีขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์เข้ามาในประเทศไทยทำให้ไทยมีโอกาสในการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการพัฒนาประเทศ เมื่อเทียบกับปัจจุบัน ประเทศจีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกมีประชากรมากกว่า 1,400 ล้านคน จึงเป็นโอกาสสำคัญที่นักธุรกิจจีนจะต้องนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาพัฒนาธุรกิจการลงทุนในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต ที่นักธุรกิจต้องเน้นเรื่องเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตและการลงทุนทางด้านสินทรัพย์ทางดิจิทัล
นายธนินท์ กล่าวด้วยว่า นักธุรกิจชาวจีนโลก จะไปลงทุนที่ประเทศใดก็ตามขอให้มองในแง่ของการสร้างประโยชน์ ต้องมี3ประโยชน์ คือ การลงทุนในประเทศอื่นต้องคำนึงว่าได้สร้างประโยชน์ให้กับประเทศ ให้กับประชาชน ของประเทศนั้น รวมถึงประโยชน์ของบริษัท “เราต้องใช้จิตวิญญาณศึกษาเรื่องการสร้างประโยชน์ให้3ฝ่าย” ควบคู่ไปกับการศึกษาเรื่องการใช้เทคโนโลยี รวมไปถึงการใช้บิ๊กดาต้าและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะปัจจุบันจีนเติบโตทางเศรษฐกิจดิจิทัล มีบริษัทชั้นนำเป็นที่ยอมรับ อาทิ อาลีบาบา และผิงอัน เป็นต้น ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้มาปฏิรูปเศรษฐกิจในแต่ละประเทศรวมถึงไทย ให้เกิดประโยชน์ได้เพราะการทำธุรกิจตอนนี้ต้องมีความรู้ เทคโนโลยี มีอินเตอร์เน็ต ในการสร้างธุรกิจที่เร็วและง่ายขึ้น
“ตอนนี้ประตูที่เปิดของจีน ยิ่งเปิดกว้าง นักธุรกิจจีนต้องมองดูว่า โครงสร้างพื้นฐานทุกวันนี้ของจีนแตกต่างจากเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ต้องเน้นในเรื่องอุตสาหกรรมการผลิตจะต้องมีการปฏิรูป มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง และใช้ดิจิทัลเข้ามาปรับโมเดลธุรกิจ เพื่อนำประเทศไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล”
นอกจากนี้ควรให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการกระบวนการผลิต โดยยกกรณีของเครือซีพีเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเจ้าแรกนำเทคโนโลยีขั้นสูงจากอเมริกามาใช้ในการเลี้ยงไก่ที่ไทย โดยมองว่าในภาคอุตสาหกรรมการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเป็นการลงทุนที่สร้างโอกาส เพื่อผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล ในขณะเดียวเราสามารถนำเทคโนโลยีมาแปรรูปเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย
นายธนินท์ เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของอาเซียน และมีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ได้ลงทุนที่ไทยเป็นฐานการผลิตหลัก จึงหวังว่านักลงทุนชาวจีนโพ้นทะเลทั่วโลก จะพิจารณามาลงทุนที่ไทย โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่ EEC หรือเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
นอกจากนี้นายธนินท์มีความเห็นว่าเมื่อใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ก็ต้องมีการวางแผนเรื่องพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้า ดังนั้นในอนาคตนักธุรกิจควรให้ความสำคัญในการลงทุนด้าน พลังงานไฟฟ้า พลังงานสะอาด ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากของการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยยกกรณีการแลกเปลี่ยนสร้างความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนกับฝรั่งเศสของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด และไฮโดรเจน รวมถึงนิวเคลียร์ โดยฝรั่งเศสมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในพลังงานสะอาดมากมาย ด้วยเหตุนี้ธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้า พลังงานสะอาดจะเป็นโอกาสสำคัญที่นักธุรกิจจีนจะหันมาลงทุนเพิ่มขึ้นในอนาคตในการฟื้นเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ
นายธนินท์ เน้นย้ำปิดท้ายว่า ประเทศไทยมีโอกาสและมีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก จึงอยากชักชวนนักลงทุนชาวจีนโพ้นทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนรุ่นใหม่ ให้ลงทุนพร้อมนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างประโยชน์ให้สังคมต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'วรงค์' โต้เดือด 'นพดล' MOU44 รักชาติต้องเอาความจริงและข้อกฎหมายมาพูด!
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า ตอบคุณนพดลเรื่อง mou 44
นพดลวอนหยุดปั่นเกาะกูด ‘คำนูณ’ แนะชั่งข้อ ‘ดี-เสีย’
“นพดล” ย้ำ “เกาะกูด” เป็นของไทย เอ็มโอยู 44 ไม่ได้ทำให้เสียดินแดน วอนเลิกบิดเบือนหวังผลการเมือง “คำนูณ” ชำแหละบันทึกความตกลง เป็นคุณกับกัมพูชามากกว่า
อดีตรมว.คลัง กาง MOU44 ถามไม่เรียกว่าเสียดินแดน จะเรียกว่าอะไร?
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
กรมอุตุฯ เปิดศูนย์ฯติดตามพายุ ’จ่ามี’ คาดขึ้นเวียดนามไม่เข้าไทย แค่มีฝนตกเพิ่มขึ้น
พายุโซนร้อนกำลังแรง 'จ่ามี' จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในวันนี้ โดยพายุนี้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย แต่จะทำให้มีลมฝ่ายตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้
ดร.เสรี จี้ยืนยันอธิปไตยให้ชัด ก่อนคุยแบ่งปันผลประโยชน์บริเวณเกาะกูด
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์เฟซบุ๊ก ว่าก่อนคุณจะไปคุยเรื่องการแบ่งปันผลประโยชน์ตรงบริเวณเกาะ
'ขุนคลัง' โต้ไทยเสี่ยงถูกหั่นเครดิตเรตติ้งฟุ้งศก.ยังฉลุย
“ขุนคลัง” โต้ถูกลดเครดิตเรตติ้ง ฟุ้งเศรษฐกิจไทยยังฉลุย เติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป อวดยอดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศปี 67 ทำลายสถิติ 10 ปี แจงรัฐเร่งปลุกเศรษฐกิจไทยประเทศ หวังเติบโตแข็งแกร่ง รับห่วงเสถียรภาพการเมือง หวังมั่นคงช่วยเรียกความเชื่อมั่น