บิ๊กซี คาดขาย IPO ในปี 2566 เตรียมเงินลงทุนปีละ 1 หมื่นล้านบาท เตรียมขยับเกมค้าปลีก-ค้าส่ง ทั้งในและต่างประเทศ อุบเจรจาพันธมิตรจีนขยายช่องทางธุรกิจ
8 มิ.ย. 2566 – นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น (BRC) เปิดเผยว่า ขณะนี้ความคืบหน้าในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) หลังจากยื่นไฟลิ่งไปแล้วในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ปัจจุบันอยู่นะหว่างการรอการพิจารณาไฟลิ่งจากทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถเสนอขาย IPO และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในปี 2566
ทั้งนี้ BRC ได้ยื่นไฟลิ่งเสนอขาย IPO จำนวนรวมไม่เกิน 3,730 ล้านหุ้น ซึ่งมีวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัจะนำเงินไปใช้การลงทุนในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ การชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจ โดยมีที่ปรึกษาทางการเงิน 5 ราย ได้แก่ บล.บัวหลวง บล.กสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ บล.เกียรตินาคินภัทร และบล.ฟินันนซ่า
สำหรับแนวโน้มภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกในครึ่งปีหลังปี 2566 ยังเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องในธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะกำลังซื้อจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จะเห็นได้ว่าหลังจากการเปิดประเทศของไทยที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้น และไทยถือเป็นประเทศจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประกอบกับการจับจ่ายใช้สอยของคนในประเทศก็กลับมาคึกคักมากขึ้น เห็นจากยอดขายสาขาเดิมของบิ๊กซีที่กลับมาเติบโตขึ้นในไตรมาส 1ที่ผ่านมา และยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง
ขณะที่งบประมาณการลงทุนในช่วง 1-2 ปีนี้จะใช้ปีละ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจในทุกรูปแบบทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงพัฒนาสาขาเดิมให้ทันสมัยมากขึ้น มีพื้นที่ในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้ชีวิตสาขา
นายอัศวิน กล่าวว่า โอกาสการเติบโตในต่างประเทศยังมีอีกมาก โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน เช่น ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งบริษัทมีการไปเข้าไปขยายธุรกิจแล้วทั้ง 3 ประเทศ โดยในลาวและกัมพูชา บิ๊กซีถือเป็นผู้นำในตลาดค้าปลีก ส่วนในเวียดนามถือว่าบริษัทรายใหญ่ในธุรกิจค้าส่ง ซึ่งได้มีการถือหุ้นใน MM Mega Market เวียดนาม และในอนาคตยังมีสิทธิเข้าไปถือหุ้นเพิ่มเพื่อนำผลการดำเนินงานของ MM Mega Market เข้ามารวมในผลการดำเนินงานของบริษัท โดยที่บริษัทยังคงเดินหน้ามุ่งการขยายตลาดในต่างประเทศมากขึ้น ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายในต่างประเทศเพิ่มเป็น 20-40% ของยอดขายรวม ภายใน 5-7 ปี จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศ 10% ของยอดขายรวม
นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าชาวจีนยังถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่สำคัญในการเพิ่มยอดขายของบริษัท โดยเฉพาะการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของพันธมิตรในประเทศจีน โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพูดคุยกับพันธมิตรจากจีนในการขยายความร่วมมือในการขยายช่องทางการจำหน่ายของบิ๊กซีผ่านเครือข่ายของพันธมิตร
สำหรับการเติบโตของผลการดำเนินงานของบริษัทยังเห็นการเติบโตต่อเนื่อง และฟื้นขึ้นมาหลังจากโควิด-19 คลี่คลาย โดยในปี 2565 ยอดขายสามารถเติบโตได้ 2.2% จากปี 2564 และในช่วงไตรมาส 1ที่ผ่านมา ยอดขายยังมีการเติบโตขึ้น 2.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกำลังซื้อของคนในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น และมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเริ่มทยอยเข้ามา ขณะที่ EBITDA margin มีการปรับตัวสูงขึ้นมาที่ 10.5% ในปี 2565 และเพิ่มขึ้นมาเป็น 10.9% ในไตรมาส 1 ของปีนี้ จากการบริหารจัดการต้นทุนต่างๆของบริษัท ทั้งในด้านของระบบโลจิสติกส์ และต้นทุนด้านพลังงานที่มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในการขนส่ง รวมถึงการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท้อปบนหลังสาขาและศูนย์กระจายสินค้าของบริษัท
อย่างไรก็ดี บริษัทมองว่าต้นทุนค่าไฟยังถือเป็นปัจจัยที่ท้าทายต่อการบริการจัดการค่าใช้จ่ายและส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ซึ่งปัจจุบันยอมรับว่าการที่ต้นทุนค่าไฟเพิ่มขึ้น ก็ต้องบริหารจัดการต้นทุนในส่วนนี้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บุญถาวร ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. ขาย IPO ไม่เกิน 320 ล้านหุ้น
BOON ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขาย IPO ไม่เกิน 320 ล้านหุ้น เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ ชูศักยภาพผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร
ยัสปาล ยักษ์ใหญ่แฟชั่นของไทยยื่นแบบไฟลิ่ง เสนอขายหุ้น IPO 156 ล้านหุ้น
บมจ. ยัสปาล หรือ JPC ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น และสินค้าไลฟ์สไตล์ รวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายที่นอน เครื่องนอน ของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 156 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บิ๊กซี รีเทล โชว์รายได้ไตรมาส 1 ทะลุ 27,432 ล้านบาท กำไรโต 17.6%
บมจ. บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น “BRC” โชว์ผลประกอบการสุดแกร่งในไตรมาส 1 ปี 2566 ด้วยรายได้รวม 27,432.9 ล้านบาท เติบโตขึ้น 2.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า กำไรรวม 931.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139.4 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นถึง 17.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตทั้งรายได้จากการขายสินค้า และรายได้ค่าเช่าและบริการ โดยหลักเนื่องจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของร้านค้าในรูปแบบต่างๆ ของบริษัทฯ