ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สร้างความสุขให้คนไทยได้มีบ้าน ปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 2564 ได้เกินเป้าหมาย ณ วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม 2564 เวลา 17.18 น. ปล่อยได้แล้วจำนวน 215,701 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายซึ่งตั้งไว้ที่ 215,641 ล้านบาท คาดถึงสิ้นปี 2564 จะได้ไม่น้อยกว่า 240,000 ล้านบาท สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ 68 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งธนาคาร
4 ธ.ค. 2564 นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม 2564 เวลา 17.18 น. ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้จำนวน 215,701 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายในปี 2564 ซึ่งตั้งไว้ที่ 215,641 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว แม้จะเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID -19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบัน แต่ ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ยังคงสามารถสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง ในการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เพื่อความสุขของคนไทย เพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิต และความมั่นคงในด้านที่อยู่อาศัย
ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า แต่ละกลุ่มรายได้ อาทิ โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2564 อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 2.75% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสมสูงถึง 53,280 ล้านบาท โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก ปี 2564 อัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.50% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสม 21,280 ล้านบาท ขณะที่โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 อัตราดอกเบี้ยต่ำ 1.99% ต่อปี นาน 4 ปีแรก เงินงวดคงที่ 84 งวดแรก (7 ปี) ให้กู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ บ้านมือสอง และทรัพย์ NPA หรือเพื่อปลูกสร้าง ในระดับราคาซื้อ-ขายไม่เกิน 1,200,000 บาท ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2564 เวลา 12.00 น. มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 63,786 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 76,543.20 ล้านบาท ยื่นขอสินเชื่อแล้ว 5,575 ราย วงเงิน 4,840 ล้านบาท ได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว 4,764 ราย วงเงิน 4,010 ล้านบาท
“แม้สถานการณ์ COVID-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และรายได้ของประชาชน แต่ธนาคารยังสามารถปล่อยสินเชื่อได้สูงกว่าเป้าหมายตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม เร็วขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาที่ปล่อยสินเชื่อเกินเป้าได้ในวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ส่วนสำคัญมาจากผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคาร รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน และค่าจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ และมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (มาตรการ LTV) เป็นการชั่วคราว ทำให้ลูกค้าที่รายได้ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เข้ามาขอสินเชื่อกับธนาคารมากขึ้นในช่วงปลายปีมากขึ้น และเชื่อว่า ณ สิ้นปี 2564 ธอส. จะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ไม่น้อยกว่า 240,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นจำนวนสินเชื่อปล่อยใหม่ที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ 68 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งธนาคาร ซึ่งการทำให้คนไทยได้มีความสุขจากการมีบ้าน คือรอยยิ้มและความสุขของคน ธอส. เช่นกัน” นายฉัตรชัย กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกษตรกรเฮ! ธ.ก.ส. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สูงสุด 0.25%
ธ.ก.ส. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สูงสุดร้อยละ 0.25 พร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ส่งเสริมวินัยการออม
ธอส. เตือนภัย!! ระวังมิจฉาชีพ ใช้ภาพกรรมการผู้จัดการ ปล่อยสินเชื่อบุคคลออนไลน์
ธอส. เตือนภัย!! อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพแอบอ้างหลอกลวงใช้ภาพกรรมการผู้จัดการ ปล่อยสินเชื่อบุคคลออนไลน์
'ธ.ก.ส.' โชว์แก้หนี้นอกระบบแล้ว 6 หมื่นล.ช่วยชีวิตลูกค้ากว่า 7 แสนราย
“ธ.ก.ส.” กางยอดแก้หนี้นอกระบบแล้ว 6 หมื่นล้านบาท ช่วยลูกค้าพรึ๊บ 7.12 แสนราย
ธกส. โชว์ยอดเกษตรกรพักหนี้แล้ว 7 แสนราย ปักธง NPL เหลือไม่เกิน 5%
“ธ.ก.ส.” กางยอดเกษตรกรรายย่อยแห่เข้าโครงการพักหนี้แล้ว 7 แสนราย ตกค้างอีกเฉียด 1 ล้านราย ยันเร่งดำเนินการให้จบภายใน 3 เดือน พร้อมแจงเงินฝากยังแข็งแกร่ง เดินหน้าสางหนี้เสีย ปักธงสิ้นปีบัญชี 2567 กดหนี้เน่าเหลือไม่เกิน 5% เด้งรับนโยบายรัฐบาล ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติม
ธอส. ปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 66 เข้าเป้า 2.3 แสนล้าน แย้มคุม NPL อยู่หมัด
นายกฤษณ์ เสสะเวช กรรมการธนาคาร และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2566 ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ตามเป้าหมายในปี 2566
'ธ.ก.ส.' โอนเงินค่าบริหารจัดการข้าวเพิ่มกว่า 6,100 ล้านบาทวันนี้
ธ.ก.ส. พร้อมจ่ายเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 รอบที่ 2 วงเงินกว่า 6,100 ล้านบาท ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาท โดยมีเกษตรกรได้รับประโยชน์เพิ่มอีกกว่า 6.8 แสนครัวเรือน เริ่มโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง 18 ธันวาคมนี้