รฟท. เล็งชงบอร์ด 22 มิ.ย.นี้ เคาะลงนามสัญญาจ้าง ‘กิจการร่วมค้า ITD-CREC No.10JV’ลุยงานสัญญา 3-1 รถไฟไฮสปีดไทย-จีน เฟส 1 หลังเอกชนยืนยันราคาแล้ว ส่วนสัญญา 4-5 ยังรออัยการฯ ตรวจร่างสัญญา
22 พ.ค.2566 – นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ–หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ–นครราชสีมา) ระยะทาง 253 กิโลเมตร (กม.) 14 สัญญา วงเงิน 1.79 แสนล้านบาทว่า ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ 1 สัญญา อยู่ระหว่างก่อสร้าง 10 สัญญา และรอการลงนาม 3 สัญญา ประกอบด้วย 1.สัญญา 3-1 งานโยธา ช่วงแก่งคอย–กลางดง และปางอโศก–บันไดม้า ระยะทาง 30.21 กม. ซึ่งปัจจุบันทางกิจการร่วมค้า ITD-CREC No.10JV ผู้รับจ้าง
ทั้งนี้ ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กับ China Railway Engineering Corporation ได้ยืนยันราคาประมาณ 9.3 พันล้านบาทมายัง รฟท. แล้ว คาดว่าจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท. พิจารณาในวันที่ 22 มิ.ย.66 ก่อนจะลงนามสัญญากับเอกชนต่อไป
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า 2.สัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม. ขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุด อยู่ระหว่างตรวจร่างสัญญา หากแล้วเสร็จจะสามารถลงนามสัญญาจ้างกับ บริษัท บุญชัยพาณิชย์(1979) จำกัด ผู้รับจ้างสัญญาดังกล่าว วงเงิน 10,325 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างต่อไป ทั้งนี้ในร่างสัญญากำหนดเป็นเงื่อนไขให้สามารถสร้างทางไปได้ก่อน ในระหว่างการจัดทำรายงานผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (HIA) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เชื่อมโยงกับสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ซึ่งเพิ่งจัดทำแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างรายงาน HIA ไปยังองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการก่อสร้างโครงการฯ
นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า และ 3.สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.2 กม. ซึ่งเป็นช่วงที่มีโครงสร้างทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ยังอยู่ระหว่างเจรจาเรื่องแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนโครงการฯ และขณะนี้บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ในฐานะเอกชนคู่สัญญา ยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องการก่อสร้างโครงสร้างร่วม ซึ่งทาง รฟท. สอบถามคำตอบไปทุกเดือน และเดือน มิ.ย.นี้ จะสอบถามไปอีก โดยแนวโน้มเอกชนก็ยังจะเป็นผู้ก่อสร้างให้ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ดีกว่าที่จะให้ รฟท. มาดำเนินการก่อสร้างเอง เพราะต้องนับหนึ่งใหม่ และจากที่คำนวณไว้เบื้องต้นต้องใช้งบประมาณการก่อสร้างเพิ่มขึ้นประมาณ 9 พันล้านบาท จากวงเงินเดิมประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ในระหว่างที่รอคำตอบจากเอกชนนั้น รฟท. จะดำเนินการเตรียมแผนเรื่องการก่อสร้างเองไว้คู่ขนานด้วย เพราะต้องยอมรับว่าเรื่องพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว เป็นปัจจัยหนึ่งที่หากล่าช้าจะกระทบกับภาพรวมการก่อสร้างของโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินนั้น รฟท. ยังคงเป้าหมายเดิมที่พร้อมจะออกหนังสือให้เอกชนเริ่มงาน (NTP) ได้ในช่วงเดือน มิ.ย.2566 แต่เบื้องต้นทราบว่าขณะนี้เอกชนยังไม่ได้รับการสนับสนุนการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ยังมีการขอเอกสารเพิ่มเติมจากเอกชนอยู่ ทั้งนี้หากเอกชนยังไม่ได้บีโอไอ รฟท. ก็ยังไม่สามารถออก NTP ให้ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สุริยะ' ย้ำที่เขากระโดงเป็นของรฟท. ส่วนที่ดินอัลไพน์ ยันไม่ผิดกฎหมาย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าภายหลังการรถไฟ
‘วีริศ’ ลุยงานตรวจความคืบหน้าโครงการรถไฟสายอีสาน
‘วีริศ’ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พร้อมรับรับฟังความคืบหน้าโครงการ ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ มอบผู้บริหารร่วมกันวางแผนการใช้ประโยชน์จากโครงการต่างๆ ให้คุ้มค่าสูงสุด ย้ำเร่งผลักดันอุตสาหกรรมระบบรางของไทย เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางในภูมิภาคอาเซียน
บอร์ดรฟท.เคาะวงเงิน 3.41 แสนลบ. สร้างรถไฟไทย-จีน เฟส 2
บอร์ดรฟท.ไฟเขียวรถไฟไทย-จีน เฟส 2 วงเงินกว่า 3.41 แสนลบ. เตรียมชงคมนาคม-ครม.ในปีนี้
รฟท.โชว์ขบวนรถไฟท่องเที่ยวสุดหรู “SRT ROYAL BLOSSOM”ปักหมุดเปิดบริการกลางปีนี้
ได้รับความสนใจไม่น้อย หลังจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เปิดวาร์ปรถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่ SRT ROYAL BLOSSOM ที่ดัดแปลงมาจากขบวนรถญี่ปุ่น Hamanasu