'กรุงไทย' ชี้ท่องเที่ยวฟื้นเคาะจีดีพีปี 66 โต 3.4%

“Krungthai COMPASS” ยังมองจีดีพีไทยปี 2566 โตได้ 3.4% ชี้อานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้นตัวแกร่ง ช่วยหนุนการบริโภคภาคเอกชน ลุ้นโตสูงถึง 2% ห่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว-ดอกเบี้ยพุ่ง-เงินเฟ้อสูงสะเทือนการลงทุนภาคเอกชน ส่งออกยังทรุดตามทิศทางเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า

17 พ.ค. 2566- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ได้ออกบทวิเคราะห์ โดยคงมุมมองเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตได้ใกล้เคียงกับประมาณการเดิมที่ 3.4% สอดคล้องกับการประเมินของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ในช่วง 2.7-3.4% โดยมีค่ากลางที่ 3.2%

ทั้งนี้ มีปัจจัยสนับสนุนมาจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดี และส่งผลต่อเนื่องไปยังการบริโภคภาคเอกชน โดยในไตรมาส 1/2566 การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวสูงถึง 2% เร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 0.1% จากการใช้จ่ายในหมวดบริการตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแรงส่งสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ต่อเนื่องและยังเป็นความเสี่ยงขาสูงที่อาจทำให้การบริโภคภาคเอกชนทั้งปีมีแนวโน้มขยายตัวได้มากกว่าที่เคยคาดไว้ที่ 3.5%

นอกจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวสัญชาติจีนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกที่เปราะบางได้ส่งผลกระทบมายังการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอตัวต่อเนื่อง อีกทั้งเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนท่ามกลางแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง อาจเป็นปัจจัยกดดันต่อการลงทุนในปีนี้ ทำให้การลงทุนภาคเอกชนมีความเสี่ยงที่อาจต่ำกว่าประมาณการเดิมที่มองไว้ที่ 3.2%

ดังนั้น แม้ว่าเศรษฐกิจจะมีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่อาจเติบโตต่อเนื่องและมากกว่าคาด แต่ก็อาจถูกกดดันจากแนวโน้มการลงทุนภาคเอกชนที่อาจชะลอตัวมากกว่าคาดได้ ทำให้เศรษฐกิจในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตได้ใกล้เคียงกับที่ Krungthai COMPASS ประเมินไว้ที่ 3.4%

สำหรับเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/2566 ที่ขยายตัว 2.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นการเติบโตเร่งขึ้นจากไตรมาสที่ 4/2565 ที่ขยายตัว 1.4% จากการส่งออกบริการและการบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ ขณะเดียวกันการส่งออกสินค้าหดตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า แต่มีสัญญาณที่จะปรับดีขึ้น