นายกฯ ยินดีธนาคารโลกจัดอันดับประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ไทย อยู่ลำดับ 3 ของอาเซียน และอันดับ 34 ของโลก
7 พ.ค. 2566- นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงาน ดัชนีวัดประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ประจำปี 2566 (International Logistics Performance Index: LPI 2023) ของธนาคารโลก (World Bank) และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับประเทศที่มีระบบโลจิสติกส์มีประสิทธิภาพสูงเป็นอันดับที่ 34 ของโลก จากทั้งหมด 139 ประเทศ และเป็นอันดับที่ 3 ของอาเซียน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ธนาคารโลกได้เผยแพร่รายงานดัชนีวัดประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ประจำปี 2566 ซึ่งวัดความสามารถของประเทศต่าง ๆ 139 ประเทศ ในการเคลื่อนย้ายสินค้าข้ามพรมแดน จากการประเมิน 6 ตัวชี้วัด โดยประเทศไทยได้คะแนนในแต่ละตัวชี้วัด ดังนี้ 1. พิธีการศุลกากร (Customs) 3.3 คะแนน 2. โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) 3.7 คะแนน 3. การเตรียมการขนส่งระหว่างประเทศ (International shipments) 3.5 คะแนน 4. สมรรถนะผู้ให้บริการโลจิสติกส์ (Logistics Competence and Quality) 3.5 คะแนน 5. ระบบการติดตามและตรวจสอบ (Tracking and Tracing) 3.6 คะแนน และ 6. ความตรงต่อเวลาของการบริการ (Timeliness) 3.5 คะแนน โดยไทยมีคะแนนเฉลี่ยรวม 3.5 คะแนน เพิ่มขึ้นจากการประเมินครั้งก่อนในปี 2561 ซึ่งไทยได้คะแนนเฉลี่ยรวม 3.41 คะแนน โดยในปีนี้ไทยได้รับการจัดอันดับที่ 34 ของโลก และอันดับที่ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ ซึ่งได้อันดับที่ 1 ของโลก ด้วยคะแนนเฉลี่ย 4.3 คะแนน และมาเลเซียได้อันดับที่ 26 ของโลก ด้วยคะแนนเฉลี่ย 3.6 คะแนน
“นายกรัฐมนตรียินดีต่อผลการจัดอันดับประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ของไทย ซึ่งสะท้อนการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่เห็นผลเป็นรูปธรรมจากคะแนนเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลให้ความสำคัญเชื่อในศักยภาพระบบโลจิสติกส์ของประเทศมาโดยตลอด และได้วางแนวทางการดำเนินการเพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็นประตูการค้าที่สำคัญของภูมิภาคในอนาคต ผ่านการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย พ.ศ. 2566-2570 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าตามแผนฯ เร่งยกระดับระบบโลจิสติกส์ของไทยให้มีประสิทธิภาพ พร้อมนำผลการประเมินมาต่อยอดพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพในแต่ละด้าน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้สูงขึ้น” นายอนุชากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกอิ๊งค์ควง 2 รมต.หญิงลง 'ขอนแก่น-มหาสารคาม' ติดตามแก้น้ำท่วม-น้ำแล้ง-ตัดริบบิ้นเปิดงาน
นายกฯ เร่งสปีดนโยบายรัฐบาล ลงขอนแก่น-มหาสารคาม 20 ธ.ค. แก้ไขน้ำท่วม-น้ำแล้ง พร้อมติดตามโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน พร้อมตัดริบบิ้นเปิดงานซอฟพาวเวอร์ของไทย
ครม.เคาะแพ็กเกจใหญ่ช่วยเหลือ 'ลูกหนี้รายย่อย-เอสเอ็มอี'
ครม. อนุมัติชุดใหญ่! จัดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ผู้ประกอบการ SMEs มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นแน่
นายกฯ อิ๊งค์ลั่นกลาง ครม.พร้อมลงภาคใต้แต่ไม่รู้เมื่อไหร่!
นายกฯ แจ้งที่ประชุม ครม. พร้อมลงภาคใต้ ขอ ศปช.ส่วนหน้าสรุปแผนแก้ไขน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ ทั้งระยะสั้น-ระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก
รัฐบาลตีปี๊บแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย
รัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง“ พฤหัสนี้ มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย หลังพบทุกมิติของประเทศคึกคัก คาดจีดีพีปีหน้าเติบโตสู้ประเทศในอาเซียนได้แน่
รัฐบาลพร้อมรับ 4 คนไทยกลับบ้าน เช็กสุขภาพ-เยียวยาจิตใจทันที
นายกฯ รับรายงานพร้อมรับ 4 คนไทยกลับบ้าน ด้าน สธ. เตรียมทีมดูแลสุขภาพกาย-จิตใจ ทันทีที่เหยียบแผ่นดินไทย
รัฐบาลชวนชมริ้วขบวนอัญเชิญ 'พระเขี้ยวแก้ว' จากดอนเมืองมาสนามหลวง
รัฐบาล เชิญชวนชมริ้วขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากดอนเมือง มาประดิษฐาน มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พร้อมเปิดสักการะ 5 ธ.ค.2567 - 14 ก.พ.2568