'พัทยาฟู้ด' โอดส่งออกเหนื่อย ต้นทุนการดำเนินธุรกิจสูง

เศรษฐกิจโลกฉุด “พัทยาฟู้ด” โตต่ำสุดในรอบ 10 ปี โอดส่งออกเหนื่อย ต้นทุนการดำเนินธุรกิจสูง วอนรัฐบาลชุดใหม่ออกนโยบายส่งเสริมภาคอุตสาหกรรม เร่งปรับกลยุทธ์หันสร้างแบรนด์ลุยผลิตสินค้าเพิ่มมูลค่า สร้างผลกำไร ดันยอดขายอีก 3 ปีทะยานแตะ 1 หมื่นล้านบาท

4 พ.ค. 2566 – นายวิชัย กรณปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารอาทิ แบรนด์นอติลุส, มงกุฎทะเล และซีคราวน์ เป็นต้น เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าต้นทุนในการทำธุรกิจปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก หรือเฉลี่ยอยู่ที่สองหลัก ไม่ว่าจะเป็นราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ค่าแรงพลังงาน รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่อนข้างผันผวนทำให้บริหารธุรกิจค่อนข้างลำบาก มองว่าหากมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ก็อยากให้มีการออกนโยบายในการควบคุมปัจจัยดังกล่าว เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมของไทยมีศักยภาพการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ แม้ว่าต้นทุนการดำเนินธุรกิจหลายอย่างจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า แต่บริษัทจะพยายามตรึงราคาสินค้าให้ได้นานที่สุด และที่ผ่านมาก็ยังไม่มีการปรับราคาแต่อย่างใด ขณะที่เรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนในปีนี้ก็เริ่มผันผวนน้อยลง อยู่ในระดับ 33-34 บาทต่อดอลลาร์ ก็ทำให้บริหารจัดการได้ดีขึ้น

ขณะเดียวกันสถานการณ์เศรษฐกิจโลกก็ยังชะลอตัว และในหลายประเทศก็มีอัตราเงินเฟ้อที่สูง ทำให้การบริโภคจะมุ่งเน้นไปยังอาหารที่จำเป็น ไม่ได้ต้องการบริโภคอาหารทุกหมวด สะท้อนจากภาพรวมการส่งออกของบริษัทที่คิดเป็น 75% ไม่มีการเติบโต ขณะที่สัดส่วนในประเทศที่คิดเป็น 25% เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 90% โดยเฉพาะช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ ที่ได้รับอานิสงส์มาจากภาคการท่องเที่ยวที่กำลังขยายตัว

“ ในช่วงที่ผ่านมาเราเติบโตเฉลี่ยปีละ 10-11% โดยปี 2565 อยู่ที่ 8,200 ล้านบาท แต่ในปีนี้คาดการณ์ว่าจะเติบโต 7% คิดเป็นประมาณ 8,800 ล้านบาท นับว่าเป็นการเติบโตที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปี แต่เชื่อว่าหากสถานการณ์ต่างๆ ปรับตัวดีขึ้น ธุรกิจก็จะเติบโตดีไปด้วย มองว่าอีก 3 ปีน่าจะมีรายได้ถึง 1 หมื่นล้านบาท” นายวิชัย กล่าว

นายวิชัย กล่าวว่า จากปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทต้องมีการปรับกลยุทธ์และการบริหาร ไม่ว่าจะเป็นการทำให้องค์กรกระชับ ลดการซับซ้อนของระบบงาน ควบคู่ไปกับการออกแบรนด์ใหม่ ที่สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าและกำไรได้ ได้แก่ ม่อนชะเมา ตอบโจทย์สินค้าเพื่อสุขภาพ แบรนด์นอติลุส เอ็กซ์เทน ในกลุ่มผลิตภัณฑ์มัลติเกรนโอ๊ตมีล และแบรนด์ไททัน ขนมขบเคี้ยว เปิดตัวด้วยผลิตภัณฑ์หนังปลาแซลมอนทอดกรอบ และแบรนด์เรมี่ สินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง โดยในตอนนี้อยู่ระหว่างการสร้างแบรนด์ในตลาด

อย่างไรก็ดี บริษัทเตรียมงบการลงทุนต่อเนื่องไว้ที่ประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการสร้างคลังสินค้า ลงทุนสำหรับไลน์การผลิตอาหารคนและอาหารสัตว์ รวมถึงพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด และยังมีโครงการที่จะดำเนินงานในต่างประเทศอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เอ็กซิมแบงก์’ เคาะจีดีพี-ส่งออกไทย 68 ฉลุยคาดโต 3%

“เอ็กซิมแบงก์” เคาะจีดีพี-ส่งออกไทยปี 68 โตแน่ 3% ท่องเที่ยวฟื้นเต็มสูบ ปักธงเดินหน้าบทบาท Green Development Bank นำทัพผู้ประกอบการไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมกางผลงานหนี้เสียลด 1.2% มั่นใจสิ้นปีกำไรสุทธิสูงกว่า 1 พันล้าน