สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เผยข่าวดีต้อนรับวันแรงงานแห่งชาติ กบน. อนุมัติลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอีกรอบเป็นครั้งที่ 5 เหลือ 32.50 บาท/ลิตร หลังจากราคาเฉลี่ยน้ำมันดีเซลลดลงไม่ถึง 100 เหรียญต่อบาร์เรล ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
1 เม.ย. 2566 – นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 มีมติปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลง 0.50 บาทต่อลิตร จากราคา 32.94 บาทต่อลิตร เป็น 32.44 บาทต่อลิตร หรือลดเหลือ 32.50 บาทต่อลิตร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป โดยเป็นปรับลดลงอีกเป็นครั้งที่ 5 หรือรวมการปรับลงแล้ว 2.50 บาทต่อลิตรนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
สาเหตุการปรับลดลงครั้งนี้เป็นผลมาจาก ราคาเฉลี่ยน้ำมันดีเซลเดือนเมษายน 2566 อยู่ที่ 97.12 เหรียญสหรัฐต่อบาร์ ซึ่งไม่ต่างกันมากจากเดือนมีนาคมอยู่ที่ 98.92 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยอัตราเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทน้ำมันดีเซลเฉลี่ยเดือนเมษายน 2566 อยู่ที่ 5.00 บาทต่อลิตร อย่างไรก็ดี สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลโลกยังคงมีความผันผวนจากเศรษฐกิจที่ถดถอย วิกฤตด้านการเงิน ความผันผวนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดจนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีน
สำหรับฐานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มทยอยติดลบลดลง วันที่ 30 เม.ย. 2566 ติดลบ 82,612 ล้านบาท แบ่งเป็นติดลบจากบัญชีน้ำมัน 35,822 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG 46,790 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พีระพันธุ์' วอนม็อบรถบรรทุก รอร่างกฎหมายเข้าสภาฯ เปลี่ยนรูปแบบคิดราคาน้ำมัน
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณีสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ประกาศเตรียมระดมพลผู้ประกอบการรถบรรทุกจัดคาราวานเพื่อนขบวนรถบรรทุกทุกภูมิภาค เข้ากรุงเทพฯในวันที่ 3 ก.ค.
สนพ. เผยราคาน้ำมันดิบตลาดโลก เม.ย. เพิ่มขึ้น 22%
สนพ. เผยราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเดือน เม.ย. 67 ปรับตัวเพิ่มขึ้น กว่า 22 % หลังคลังน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดต่ำลงสวนทางจากนักวิเคราะห์คาดการณ์
สมาพันธ์แรงงานฯ ปลุก สามัคคีกรรมกร ต้านทุนนิยมครอบโลก สร้างสังคมใหม่
สมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย (สสรท.) สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ออกแถลงการณ์ เนื่องใน วันกรรมกรสากล 2024 “สามัคคีกรรมกร ต้านทุนนิยมครอบโลก สร้างสังคมใหม่ ประชาธิปไตยประชาชน” มีใจความดังนี้