“คลัง” การันตีเศรษฐกิจไทยเดือนมี.ค. 66 ยังแจ่ม ท่องเที่ยว-ภาคเกษตรโตต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวต่างชาติบุกไทยโต 953% ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคทะยานต่อเนื่อง 10 เดือนติด และสูงที่สุดในรอบ 37 เดือน สะท้อนความมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจ ประชาชนคลายความกังวลจากอัตราเงินเฟ้อ
27 เม.ย. 2566 – นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมี.ค. 2566 ว่า เศรษฐกิจได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวและภาคการเกษตรที่ขยายตัวได้ดี อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงต่อเนื่อง จากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 20.1% การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ลดลงจากเล็กน้อยช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -0.9% ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 53.8 จากระดับ 52.6 ในเดือนก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และสูงสุดในรอบ 37 เดือน สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น รวมถึงความกังวลจากอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง
ขณะที่เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุนลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -2.2% และปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -12.6% ส่วนภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 29.0%
สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัวแต่ในอัตราที่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 27,654.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวในอัตราชะลอลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -4.2% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวได้หลายรายการ อาทิ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง น้ำตาลทราย และข้าว รวมทั้งสินค้าเครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และรถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ส่วนสินค้าส่งออกที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันที่ลดลง เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดโลกชะลอลง และเมื่อจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงตามอุปสงค์ที่ชะลอตัวของประเทศคู่ค้า โดยตลาดที่ยังคงขยายตัว อาทิ ตลาดญี่ปุ่น ที่ 10.2%, อินโดนีเซีย ที่ 5.2%, เกาหลีใต้ ที่ 4.7% และไต้หวัน ที่ 4.0% ยังมีตลาดรัสเซียและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (Commonwealth of Independent States: CIS) ขยายตัวถึง 228.0%
ทั้งนี้ ในส่วนของเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่9.9% จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ อาทิ ยางพารา หมวดไม้ผล และหมวดปศุสัตว์ เป็นต้น สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 97.8 ซึ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี จากระดับ 96.2 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกองค์ประกอบของดัชนีฯ จากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ และการขยายตัวต่อเนื่องของการท่องเที่ยว โดยยังมีปัจจัยกดดันจากอุปสงค์ของต่างประเทศที่ชะลอตัว
นายพรชัย กล่าวอีกว่า ในเดือนมี.ค. 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 2.22 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 953.0% โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย จีน รัสเซีย อินเดียและเกาหลีใต้
อย่างไรก็ดี เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี และแรงกดดันจากระดับราคาสินค้าลดลงต่อเนื่อง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมี.ค. 2566 อยู่ที่ 2.83% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.75% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน ก.พ. 2566 อยู่ที่ 61.1% ต่อจีดีพี ผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ ในเดือนมี.ค. 2566 อยู่ที่ 0.69% ของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ทั้งหมด สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงที่ 224.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อนุสรณ์’ วิเคราะห์ ‘ทรัมป์2.0’ ไทยต้องปรับยุทธศาสตร์ ศก. พึ่งพาตัวเองมากขึ้น
ทรัมป์ 2.0 ไทยต้องปรับยุทธศาสตร์เศรษฐกิจหันพึ่งพาตัวเองมากขึ้น สินค้านอกข้อตกลงเอฟทีเอกระทบรุนแรง สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯรอบใหม่อาจนำไปสู่สงครามเย็นรอบใหม่ในไม่ช้า
เศรษฐกิจไทย ทำไมยังไม่ไปไหนเสียที
ก่อนหน้าที่ดิฉันจะเข้าทำงานที่องค์การสหประชาชาติเมื่อเกือบ 8 ปีก่อน ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ชื่นชมประเทศไทยมากนัก เพราะรถติดมากแทบทุกวัน
ไทยพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% เริ่ม 1 พ.ย.
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
เวิลด์แบงก์คาดจีดีพีไทยปี 67 โต 2.4%
ธนาคารโลก (World Bank) คงคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) ไทยในปี 2567 จะอยู่ที่ 2.4% เร่งตัวขึ้นจาก 1.9% ในปี 66
'คลัง' ยัน 'เศรษฐา-พิชัย' ไม่ได้ทำผิด พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังฯ
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ขอชี้แจงกรณีข้อกล่าวหารัฐบาลปล่อยกู้โครงการสินเชื่อ IGNITE THAILAND และโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (สินเชื่อซอฟท์โลน) โดยใช้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังแห่งรัฐ พ.ศ. 2561 (พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ) สองมาตรฐาน ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย