กทพ.ลุยชง “คมนาคม” สร้างทางด่วน “ท่าเรือกรุงเทพ-อาจณรงค์” 3 พันล้าน “กทท.-กทพ.” ลุยถกสัดส่วนร่วมลงทุนให้จบปีนี้ ชี้เป็นโครงการที่ไม่ได้ช่วยเพิ่มรายได้ แต่ช่วยแก้รถติด อำนวยความสะดวกขึ้นลงในท่าเรือได้เลย
26 เม.ย. 2566 – นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กทท. และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ได้จัดทำการศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพ และทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์(S1) ระยะทาง 2.25 กิโลเมตร(กม.) เสร็จเรียบร้อยแล้วอยู่ในขั้นตอนการตรวจรับ คาดว่าอีกประมาณ 2 เดือน หรือประมาณเดือน มิ.ย.66 จะสามารถเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาโครงการดังกล่าวได้ ทั้งนี้โครงการฯ มีวงเงินลงทุนประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาทหากกระทรวงคมนาคมเห็นชอบ จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาอนุมัติ และดำเนินการต่อไป
” เบื้องต้นโครงการฯ จะใช้งบประมาณของ กทท. และ กทพ. ไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน แต่ปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนในการก่อสร้างร่วมกันยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งจะหารือร่วมกันอีกครั้งในเร็วๆ นี้ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในปี 2566 ทั้งนี้โครงการดังกล่าวแม้จะไม่ได้สร้างรายได้เพิ่มให้ กทท. และ กทพ. เพราะแค่เปลี่ยนจุดขึ้นลงทางด่วน แต่จะช่วยบรรเทาปัญหาจราจรบนถนนอาจณรงค์ บริเวณทางเข้าท่าเรือกรุงเทพและถนนโครงข่ายโดยรอบได้อย่างดี “นายเกรียงไกร กล่าว
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวมีระยะทาง 2.25 กม. พื้นที่โครงการอยู่บนถนนอาจณรงค์ในพื้นที่ของ กทท. และเชื่อมต่อกับทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ (S1) มีจุดเริ่มต้นอยู่บริเวณเทอร์มินอล 3 ของท่าเรือกรุงเทพ แนวสายทางจะเป็นทางยกระดับ 4 ช่องจราจร (ทิศทางละ 2 ช่องจราจร) ก่อสร้างเป็นโครงสร้างคานคอนกรีตอัดแรงหล่อสำเร็จรูปตัวไอไปตามแนวถนนอาจณรงค์ ข้ามคลองพระโขนงและถนนเลียบทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ จากนั้นแนวสายทางจะแยกเป็นขาทางเชื่อม เข้าเชื่อมกับ S1 ในทิศทางไปทางพิเศษบูรพาวิถี และทิศทางไปทางพิเศษฉลองรัช
สำหรับด่านเก็บค่าผ่านทางฯ มี 4 จุด แบ่งเป็น 1.ด่านขาขึ้น บริเวณหน้าอาคารสำนักงาน ปตท.พระโขนง มีช่องเก็บค่าผ่านทาง 3 ช่อง, 2.ด่านขาขึ้น บริเวณประตูทางออกเทอร์มินอล 1 และ 2 มีช่องเก็บค่าผ่านทาง 1 ช่อง, 3.ด่านขาลงบริเวณทางแยกต่างระดับอาจณรงค์ มีช่องเก็บค่าผ่านทาง 3 ช่อง และ 4.ด่านขาลง หรือด่านอาจณรงค์ 1 ที่มีอยู่ในปัจจุบัน มี 8 ช่อง โดยจะมีทางเชื่อมต่อเข้าท่าเรือกรุงเทพเป็น Ramp 1 ช่อง
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นค่าผ่านทางจะจัดเก็บอัตราเดียวกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร รถ 4 ล้อ 50 บาทต่อคัน รถ 6-10 ล้อ 75 บาทต่อคัน และรถมากกว่า 10 ล้อ 110 บาทต่อคัน คาดว่าจะมีปริมาณการจราจร 1.4 หมื่นคันต่อวัน ในจำนวนนี้จะเป็นรถใหม่ที่ไม่เคยเข้าระบบทางด่วนสายนี้ ประมาณ 6,000 คัน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้โครงการดังกล่าว มีแผนจะเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคา(ประมูล) ปลายปี 2565 ก่อสร้างภายในปี 2566 และเปิดให้บริการได้ประมาณปี 2568 โดยโครงการนี้ไม่ต้องมีการเวนคืนที่ดิน เพราะเป็นพื้นที่ของ กทพ. และ กทท. แต่อาจต้องเจรจากับผู้เช่า และผู้บุกรุกที่ใช้พื้นที่อยู่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ขยายสัมปทานโทลล์เวย์ แต่จะขยายสัมปทานทางด่วน
ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ไม่ขยายสัมปทานโทลล์เวย์ แต่จะขยายสัมปทานทางด่วน" ระบุว่าเดิมมีข่าวว่ารัฐจะขยายสัมปทานให้ทั้งดอนเมืองโทลล์เวย์และ
กทพ.ผุดทางด่วนริเวียร่า 'สมุทรสาคร-สมุทรปราการ' มูลค่าแสนล้าน
“กทพ.” กางแผนลุ้นปี 69-70 ศึกษาสร้าง “ทางด่วนริเวียร่าสมุทรสาคร-สมุทรปราการ” วงเงิน 1.09 แสนล้านบาท ยาว 71 กม. เล็งตอกเสาเข็มแบ่งเป็นเฟส รับแผนแม่บท MR-MAP เชื่อมมอเตอร์เวย์ หนุนระบบราง
‘สามารถ’ ชำแหละ ‘ลดค่าผ่านทาง’ แลก ‘ขยายสัมปทาน’ ใครได้ประโยชน์ ?
ใกล้ถึงเวลาจะขึ้นค่าผ่านทางไม่ว่าจะเป็นทางด่วนหรือดอนเมืองโทลล์เวย์คราใด ภาครัฐมักจะเจรจากับเอกชนผู้รับสัมปทานให้ชะลอการขึ้นค่าผ่านทาง เพื่อลดภาระค่าครองชีพของผู้ใช้บริการ