ยอดผลิตรถยนต์งวด มี.ค. 179,848 คัน เติบโต 4.16%

ส.อ.ท. เผยตัวเลขผลิตรถยนต์งวดมี.ค. 179,848 คัน เติบโต 4.16% ช่วง 3 เดือนโต 5.77% มั่นใจทั้งปีผลิตได้ตามเป้าที่ 1.95 ล้านคัน ชี้ส่งออกได้ 98,381 คัน ขยายตัว 4.84% จากปีก่อน

26 เม.ย. 2566 -นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนมี.ค. 2566 โดยจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ มีทั้งสิ้น 179,848 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.16% และเพิ่มขึ้นจากเดือนก.พ. 8.60% เพิ่มขึ้นจากการผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 26.34% และผลิตเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้น 31.59% จากการได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น โดยจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วง 3 เดือน(ม.ค.-มี ค.) มีจำนวนทั้งสิ้น 507,787 คัน และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.77%

“จากตัวเลขการผลิตรถยนต์ไตรมาสแรกของปีนี้ ทำให้มั่นใจว่าน่าจะผลิตได้ตามเป้า 1,950,000 คัน แต่ต้องติดตามปัจจัยลบใหม่เรื่องวิกฤติธนาคารว่าจะเพิ่มขึ้นและทำให้อำนาจซื้อของประเทศคู่ค้าลดลงหรือไม่”นายสุรพงษ์ กล่าว
ขณะที่การผลิตเพื่อส่งออกได้ 100,986 คัน เท่ากับ 56.15% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.72% ส่วนช่วง 3 เดือน ผลิตเพื่อส่งออกได้ 288,130 คัน เท่ากับง 56.74% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ระยะเวลาเดียวกันจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.72% ส่วนผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศได้ 78,862 คัน เท่ากับ 43.85% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.15% และในช่วง 3 เดือน ผลิตได้ 219,657 คัน เท่ากับ 43.26% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วง 3 เดือนที่ 1.14%

ด้านยอดขายมีจำนวนทั้งสิ้น 79,943 คัน เพิ่มขึ้นจาก เดือนก.พ.ปีนี้ 11.73% แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 8.37% และในช่วง 3 เดือนมียอดขาย 217,073 คัน ลดลงจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกัน 6.11% จากการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อกับผู้ซื้อรถยนต์กระบะ ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 184,462 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วง 3 เดือนของปีก่อน 13.04%

ส่วนการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ได้ 98,381 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 11.13% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.84% มูลค่าการส่งออก 60,648.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2565 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.59% จากการผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะเพิ่มขึ้นเพราะได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามพื้นที่จอดรถยนต์ส่งออกในเรือ Ro-Ro ยังไม่เพียงพอ แม้ว่าจะดีขึ้นบ้าง แต่อาจจะไม่เพียงพอมากขึ้นจากการส่งออกรถยนต์ของจีนที่ปีที่แล้วขึ้นมาเป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น

โดยคาดว่าปีนี้ประเทศจีนจะส่งออกรถยนต์เป็นอันดับ 1 ของโลก และการวนกลับมารับรถยนต์ส่งออกไปประเทศออสเตรเลียยังคงล่าช้า จากปัญหาเสียเวลาล้างดอกหญ้าที่ติดบนรถส่งออกไปจากท่าเรือไทย เสียหายหลายร้อยล้านบาท จากตัวเลขการส่งออกรถยนต์ของไตรมาสแรกของปีนี้ทำให้มั่นใจว่าจะส่งออกได้ตามเป้าที่ 1,050,000 คัน ถ้าวิกฤติการณ์การเงินที่เป็นปัจจัยลบใหม่ไม่รุนแรงกว่านี้ รวมทั้งข้อขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ไม่ขยายตัวและเพิ่มขึ้น