กรมทางหลวง ลุยขยาย 4 เลน บ.ท่าเรือ – เมืองใหม่ จ.ภูเก็ต หนุนเศรษฐกิจบูมท่องเที่ยวภาคใต้

กรมทางหลวงเดินหน้าขยาย 4 เลน สาย 4027 ช่วงท่าเรือ – เมืองใหม่ จ.ภูเก็ต ตลอดสาย คาดแล้วเสร็จก.พ.65 หวังยกระดับโครงข่ายคมนาคมและรองรับนักเดินทาง หนุนเศรษฐกิจสู่เมืองท่องเที่ยวภาคใต้

1 ธ.ค.2564-นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.)  เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้ติดตามและเร่งรัดให้ดำเนินโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตให้แล้วเสร็จทันตามกำหนดโดยขณะนี้ทางหลวงสาย 4027 ตอน บ.ป่าคลอก- บ.พารา คืบหน้ากว่า 99 % แล้วเสร็จประมาณเดือนก.พ.2565 และตอน  บ.พารา-บ.เมืองใหม่  พร้อมตอกเสาเข็มปี 2568  เพื่อยกระดับโครงข่ายคมนาคมและการพัฒนาเมือง รวมทั้งช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

ทั้งนี้เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองที่สวยงามได้สมญานามไข่มุกแห่งอันดามันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีนักท่องเที่ยวมาเยือนจำนวนมาก สร้างรายได้ให้ภูเก็ตและประเทศไทยปีละหลายแสนล้าน รวมทั้งทางหลวงหมายเลข 402 สายโคกกลอย-เมืองภูเก็ต ที่เป็นทางหลวงสายหลักเพียงเส้นเดียวมีปริมาณจราจรใกล้เต็มความจุของถนนจึงต้องหาโครงข่ายทางหลวงมารองรับปริมาณจราจร ภาครัฐจึงเห็นว่าทางหลวงหมายเลข 4027  สามารถรองรับปริมาณจราจรจากทางหลวงหมายเลข 402 ได้  รวมทั้งเชื่อมต่อไปยัง ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าเรืออ่าวปอ  ท่าเรือบางโรง และสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็วปลอดภัยตามนโยบายของรัฐบาล

นายสราวุธ กล่าวว่า นายศักดิ์สยาม จึงผลักดันให้ขยายเส้นทางหลวงหมายเลข 4027 สาย ท่าเรือ – เมืองใหม่ พื้นที่อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต จาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร  โดยที่ผ่านมากรมทางหลวงได้ดำเนินโครงการพัฒนาทางหลวงสาย 4027 ตอน บ.ท่าเรือ-ป่าคลอก ระหว่าง กม.0+000 – กม.5+900  ระยะทาง 5.9 กิโลเมตร แล้วเสร็จและเปิดให้ใช้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้ทางไปแล้ว  โดยเหลือเพียง 2 ตอนคือ ตอน บ.ป่าคลอก –  บ.พารา ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง และตอน บ.พารา-บ.เมืองใหม่  อยู่ในขั้นตอนการสำรวจและออกแบบ ดังนี้

ตอน บ.ป่าคลอก-บ.พารา  ระยะทาง 8.4 กิโลเมตร  มีจุดเริ่มต้นโครงการที่ กม.5+900 สิ้นสุดที่ กม. 14+300 ได้รับงบประมาณก่อสร้างปี 2562 วงเงิน 384.16  ล้านบาท  ปัจจุบันสำนักก่อสร้างทางที่ 1 ได้เร่งดำเนินก่อสร้างทางหลายช่วงดังกล่าว  โดย ก่อสร้างเป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษ 4 ช่องจราจร  ผิวทางคอนกรีต  ความกว้างช่องจราจรละ 3.5 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 2.5 เมตร  ภายในเขตทาง 40 เมตร มีเกาะกลางเพื่อใช้เป็นจุดกลับรถทั้งหมด 5 แห่งคือ ระดับพื้น 2 แห่ง  ใต้สะพาน 2 แห่ง และทางแยกสัญญาณไฟ 1 แห่ง  พร้อมติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างตลอดเส้นทาง  งบประมาณโครงการ 384,161,425  ล้านบาท ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าประมาณ 99.23 % คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนก.พ 2565 นี้

และตอน บ.พารา-บ.เมืองใหม่ ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นโครงการอยู่ที่ กม. 14+000 และสิ้นสุดที่ กม.20+800 โดยปัจจุบัน ได้ดำเนินการออกแบบและศึกษาประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้วเสร็จ และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับดูแลและติดตามผลการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ตแล้ว

ทั้งนี้ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ  รูปแบบโครงการเป็นทางหลวงขนาด 4 ช่องจราจร ผิวทางชนิดปอร์ตแลนด์คอนกรีต ความกว้างช่องจราจรละ 3.5 เมตร พร้อมไหล่ทางกว้างข้างละ 2.5 เมตร โดยช่วง กม. 14+000 ถึง กม. 15+700 มีเกาะกลางแบบยก (Raised Median) ส่วนช่วงบริเวณ กม. 15+700 ถึง กม.18+895 ซึ่งเป็นช่วงนอกชุมชน เกาะกลางเป็นแบบกำแพงคอนกรีต (Barrier Median) ภายในเขตทาง 40 เมตร

มีจุดกลับรถทั้งหมด 4 แห่ง โดยการยกระดับก่อสร้างทางสายหลักขึ้นเป็นสะพานและให้กลับรถใต้สะพานทั้งหมด สำหรับช่วงปลายของโครงการจาก กม.18+895 เป็นแนวเส้นทางตัดใหม่โดยเป็นสะพานข้ามป่าชายเลนไปบรรจบบริเวณสามแยกเดิมซึ่งเป็นจุดตัดทางหลวงหมายเลข 402 กับ 4026 โดยบริเวณจุดสิ้นสุดโครงการได้ออกแบบเป็นทางแยกต่างระดับ งบประมาณโครงการ 1,584.16 ล้านบาท  

ทั้งนี้ เมื่อโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จตลอดสาย 20.8 กิโลเมตร จะช่วยเติมเต็มโครงข่ายทางหลวงภาคใต้หมายเลข 4027 ให้สมบูรณ์ตลอดเส้นทาง  อีกทั้งยังช่วยรองรับปริมาณการจราจรที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งทั้งทางถนน ทางเรือ ทางอากาศไปสู่ย่านการค้าและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ช่วยส่งเสริมศักยภาพภาคขนส่งและการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ภาคใต้ ก่อให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และกระจายความเจริญในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศตามนโยบายรัฐบาลอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผู้เชี่ยวชาญ เตือนสถานการณ์เลวร้ายที่สุด อาจเกิดขึ้นเสมอจากสภาพอากาศรุนแรง

ารเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้สภาพอากาศแปรปรวนมากขึ้น โดยที่องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มีขีดจำกัดในการคาดการณ์

ฝนตกหนัก ภูเก็ตน้ำท่วม เครื่องบินลงไม่ได้ 14 เที่ยวบิน

นายมนต์ชัย ตะโหนด ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า "จากการเกิดฝนตกหนัก ตั้งแต่ช่วงเช้า เป็นต้นมา ท่าอากาศยานภูเก็ต ไม่เกิดน้ำท่วม แต่ปัญหา