19 เม.ย. 2566 – นายแมธเธียส คูเปอร์ กรรมการผู้จัดการและรองประธาน โคโลญเมสเซ่ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผู้จัดงาน Kind + Jugend ASEAN (คินอันยูเก้น อาเซียน) เปิดเผยว่า ประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน มีศักยภาพที่แข็งแกร่งในการเติบโตและพัฒนาอุตสาหกรรมสินค้าสำหรับแม่และเด็ก โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจที่มีความชื่นชอบ ความหลงใหล และทุ่มเทต่อผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก สะท้อนถึงความจำเป็นในการจัดงานเพื่อเจรจาธุรกิจในภูมิภาค โดยการจัดงานฯ ครั้งนี้ ถือว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้น โดยมีผู้สนับสนุนจากพันธมิตรในอุตสาหกรรม และผู้จัดแสดงสินค้าที่ดีทั้งหมด โดยคาดหวังว่าผู้สนับสนุนจะยังคงร่วมเติบโตไปพร้อมกันในครั้งต่อ ๆ ไปด้วยกัน
นางสาวพาฝัน ชาตาคม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลิตเติ้ล ดรีมเมอร์ จำกัด กล่าวว่า รู้สึกประทับใจที่ได้พบผู้ซื้อและผู้เข้าชมงานทั้งในและต่างประเทศ ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิด และสร้างเครือข่ายระหว่างบุคคลที่มีวิสัยทัศน์ และมุมมองเดียวกัน ได้มีการเจรจาธุรกิจ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการส่งออกสินค้าของแบรนด์จากไทยสู่ต่างประเทศ สามารถสร้างการรับรู้สู่เวทีสากล รับรองว่าจะได้พบกับบริษัทที่งาน Kind + Jugend ASEAN (คินอันยูเก้น อาเซียน) ในปีหน้าอย่างแน่นอน
นายปริญญ์ เสริมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ร็อคกิ้งคิดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า หลังจากการระบาดของโควิด-19 เราบรรลุเป้าหมายเป็นอย่างมาก จากการเข้าร่วมงาน Kind + Jugend ASEAN (คินอันยูเก้น อาเซียน) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยในครั้งนี้ บริษัทสามารถนำแบรนด์ผลักดันสู่ตลาดอาเซียนและเป้าหมายต่อไปมุ่งสู่ตลาดสากลในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงาน Kind + Jugend ASEAN (คินอันยูเก้น อาเซียน) มีผู้ประกอบการเข้าชมงานเกือบ 1,800 คน ระหว่างวันที่ 5 – 8 เมษายนที่ผ่านมา ถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงและด้วยมาตรฐานสูงสุดของนวัตกรรมสินค้าสำหรับแม่และเด็ก ที่ได้รับรางวัล Kind + Jugend ASEAN Innovation Award ช่วยสร้างรากฐานในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าสำหรับแม่และเด็กของไทยให้เติบโตสู่ตลาดในระดับสากล
อย่างไรก็ดี งานดังกล่าวนับเป็นการเปิดประตูสู่ความสำเร็จในภูมิภาคอาเซียนที่กำลังคึกคักด้วยโอกาสในการเติบโต ที่ได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ และบริษัทชั้นนำกว่า 200 แห่งจาก 15 ประเทศ ถือได้ว่า Kind + Jugend ASEAN (คินอันยูเก้น อาเซียน) เป็นแพลตฟอร์มหนึ่งในการรวบรวมผู้ประกอบการชั้นนำทั่วโลกให้มาร่วมเจรจาธุรกิจ โดยมีผู้เข้าชมงานกว่า 1,800 คนจาก 45 ประเทศอีกด้วย
