“จุรินทร์” เผย! ยอดจดทะเบียนธุรกิจ มี.ค.66 กว่า 9,179 ราย มูลค่าทุนเฉียด 3 แสนล้าน อสังหา-ก่อสร้าง-ร้านอาหาร ฮอต!ไตรมาส 1/66 จดทะเบียนกว่า 26,182 ราย โตเพิ่ม 17%
19 เมษายน 2566 เวลา 9.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ประจำเดือนมีนาคม 2566 และไตรมาส 1/2566 โดยมีรายละเอียดดังนี้
ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนมีนาคม 2566
จํานวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ ในเดือน มี.ค. 66 จํานวน 9,179 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนจํานวน 299,608.53 ล้านบาท
ประเภทธุรกิจจัดต้ังใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จํานวน 752 ราย คิดเป็น 8% ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จํานวน 699 ราย คิดเป็น 7% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จํานวน 440 ราย คิดเป็น 5% ตามลําดับ
ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจํานวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจํานวน 5,943 ราย คิดเป็น 64.75% ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จํานวน 3,090 ราย คิดเป็น 33.66% ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจํานวน 117 ราย คิดเป็น 1.27% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จํานวน 29 ราย คิดเป็น 0.32% ตามลําดับ
สำหรับธุรกิจจัดตั้งใหม่ไตรมาส 1/2566
จํานวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ ไตรมาส 1/2566 จํานวน 26,182 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2565 จํานวน 15,692 ราย เพิ่มขึ้นจํานวน 10,490 ราย คิดเป็น 67% และเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 จํานวน 22,347 ราย เพิ่มขึ้นจํานวน 3,835 ราย คิดเป็น 17%
ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จํานวน 2,118 ราย คิดเป็น 8% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จํานวน 1,916 ราย คิดเป็น 7% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จํานวน 1,228 ราย คิดเป็น 5% ตามลําดับ
มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีจํานวนทั้งสิ้น 339,595.43 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2565 จํานวน 75,891.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจํานวน 263,703.62 ล้านบาท คิดเป็น 3 เท่า และเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 จํานวน 74,397.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจํานวน 265,197.90.36 ล้านบาท คิดเป็น 356 เท่า
ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจํานวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจํานวน 17,609 ราย คิดเป็น 67.26% ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จํานวน 8,293 ราย คิดเป็น 31.47% ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจํานวน 286 ราย คิดเป็น 1.09% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จํานวน 48 ราย คิดเป็น 0.18%
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ประจําเดือนมีนาคม 2566 มีจํานวน 1,102 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจํานวน 22,684.96 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จํานวน 122 ราย คิดเป็น 11% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จํานวน 58 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จํานวน 29 ราย คิดเป็น 3% ตามลําดับ
ช่วงทุนที่มีจํานวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จํานวน 758 ราย คิดเป็น 68.78% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จํานวน 285 ราย คิดเป็น 25.87% ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จํานวน 55 ราย คิดเป็น 4.99% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจํานวน 4 ราย คิดเป็น 0.36% ตามลําดับ
จํานวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ประจําไตรมาส 1/2566 มีจํานวน 3,268 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจํานวน 29,892.62 ล้านบาท สอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จํานวน 352 ราย คิดเป็น 11% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จํานวน 157 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จํานวน 95 ราย คิดเป็น 3% ตามลําดับ
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจํานวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จํานวน 2,308 ราย คิดเป็น 70.63% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จํานวน 806 ราย คิดเป็น 24.66% ลําดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จํานวน 141 ราย คิดเป็น 4.31% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจํานวน 13 ราย คิดเป็น 0.40% ตามลําดับ
ธุรกิจดําเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 มี.ค. 66) ธุรกิจที่ดําเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จํานวน 865,987 ราย มูลค่าทุน 21.19 ล้านล้านบาท จําแนกเป็น ห้างหุ้นส่วนจํากัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จํานวน 202,061 ราย คิดเป็น 23.33% บริษัทจํากัด จํานวน 662,532 ราย คิดเป็น 76.51% และบริษัทมหาชนจํากัด จํานวน 1,394 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลําดับ
ธุรกิจดําเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จํานวน 508,093 ราย คิดเป็น 58.67% รวมมูลค่าทุน 0.45 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.11% รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จํานวน 263,508 ราย คิดเป็น 30.43% รวมมูลค่าทุน 0.90 ล้านล้านบาท คิดเป็น 4.25% ช่วงถัดไปคือ ช่วงทุน มากกว่า 5-100 ล้านบาท จํานวน 76,857 ราย คิดเป็น 8.88% รวมมูลค่าทุน 2.11 ล้านล้านบาท คิดเป็น 9.96% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จํานวน 17,529 ราย คิดเป็น 2.02% รวมมูลค่าทุน 17.73 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.68% ตามลําดับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
DITP แนะเทรนด์แฟชั่นสิงคโปร์ ปี 67 ก่อนวางแผนผลิตสินค้าส่งออกไปขาย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยเทรนด์แฟชั่นสิงคโปร์ ปี 67 ผู้บริโภคสนใจสินค้าทำจากวัสดุเหลือใช้ แนวสตรีท สินค้าไม่ระบุเพศ ผ้าโปร่งสีขาว กางเกงยีนส์เอาต่ำ-สูง ผ้าลายดอก กระเป๋าทำจากวัสดุรีไซเคิล แนะผู้ส่งออกไทยศึกษาและวางแผนผลิตสินค้าไปขาย
'หมอวรงค์' จับพิรุธคำแถลงการจัดเรียงกองข้าว
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า จับพิรุธคำแถลงการจัดเรียงกองข้าว
'พี่อ้วน' มีเงื่อนไข! หากต้องส่งข้าว 10 ปีให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ถึงการส่งหนังสือไปถึงกระทรวงสาธารณสุข เพื่อ
ข้องใจข้าว 10 ปีกินได้ สารตั้งต้นเอาคนหนีคุกกลับประเทศ?
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์ Facebook ว่า อาจารย์เคมีนำข้าว 10 ปีไปทำการพิสูจน์ตามหลักวิชาการ ได้ผลออกมาบอกว่าข้าว 10 ปี
คิดสั้นได้ไม่คุ้มเสีย! นำข้าวค้างโกดัง 10 ปี ส่งขายต่างประเทศ
นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)กล่าวถึงกรณีข้าวหอมมะลิเก่าค้างโกดังโครงการรับจำนำข้าว
ดีเบตข้าว 10 ปี นัดแล้วไม่มาต้องถูกประจาน!
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า "ติดตามดีเบตเรื่องข้าวระหว่างผมกับโฆษกรัฐบาล