นายกฯ ผลักดันไทยเป็นฐานการการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนยานยนต์ของภูมิภาค ยินดีแนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้า BEV ในไทยเติบโตต่อเนื่อง
12 เม.ย.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนในภาคการผลิตและส่งออกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นฐานการการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนยานยนต์ของภูมิภาค เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ พร้อมทั้งรับทราบการเปิดเผยรายงานของศูนย์วิจัยกสิกรไทยซึ่งคาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า BEV ในไทยในปี 2566 นี้จะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดถึง 271.6% เมื่อเทียบกับปี 2565 พร้อมประเมินว่าจะสามารถทำยอดขายได้กว่า 50,000 คัน สะท้อนถึงพัฒนาการด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายอนุชา กล่าวว่า รถยนต์ไฟฟ้า BEV (Battery Electric Vehicle) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน โดยไม่มีการปลดปล่อยมลพิษ (Zero Emission) จากรถยนต์โดยตรง จึงได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยเพิ่มเติมว่า แนวโน้มการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า BEV ในไทย มีปัจจัยสนับสนุนทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน โดยด้านอุปสงค์มาจากความต้องการรถยนต์ BEV ที่ยังอยู่ในระดับสูงของผู้บริโภค ซึ่งเป็นผลของมาตรการกระตุ้นด้านราคาที่ถูกจุดจากทางภาครัฐและการเร่งกระจายจุดชาร์จรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งาน ขณะที่ด้านอุปทานมาจากสัญญาณบวก 3 ด้าน ได้แก่ 1. สถานการณ์การขาดแคลนชิปในการผลิตรถยนต์ที่เริ่มคลี่คลายขึ้นตามลำดับทำให้โอกาสส่งมอบรถยนต์ทำได้ดีขึ้น 2. ค่ายรถต่าง ๆ เช่นจาก จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มีแนวโน้มเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น โดยเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า BEV รุ่นใหม่ในไทยปีนี้หลายรุ่น หลาย Segment ซึ่งจะทำให้มีตัวเลือกมากขึ้นในตลาด และ 3. ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า BEV ในจีนตกลงมาก ทำให้จีนมีโอกาสส่งออกมาทำตลาดในไทยแทนมากขึ้น
สอดคล้องกับรายงานจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ระบุว่า ยอดจดทะเบียนใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้า BEV ในไทย ทำสถิติในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ได้กว่า 5,402 คัน ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่มีการบันทึกจำนวนจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าในเดือนเดียวกัน 5,016.16% ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า HEV มียอดจดทะเบียนใหม่ที่ 7,842 คัน เพิ่มขึ้น 46.71% รถยนต์ไฟฟ้า PHEV มียอดจดทะเบียนใหม่ที่ 1,249 คัน เพิ่มขึ้น 46.71% ตามลำดับ รวมทั้งขณะนี้ยังมีการจัดงาน Bangkok International Motor Show 2023 ครั้งที่ 44 ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม - วันที่ 2 เมษายน 2566 โดยปัจจุบัน (ข้อมูลวันที่ 29 มีนาคม 2566) ยอดจองรถยนต์ไฟฟ้าภายในงานมากกว่า 1,000 คันแล้ว
“รัฐบาลพร้อมส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าผ่านการออกมาตรการต่างๆ โดยคำนึงถึงความต้องการของทุกภาคส่วน สอดคล้อง สมดุลกับการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน เชื่อมั่นว่า นโยบาย 30@30 เพื่อตั้งเป้าการผลิตรถยนต์ที่ไม่มีการปลดปล่อยมลพิษ จะทำให้ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งจากรายงานดังกล่าวสะท้อนแนวโน้มของการเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศมากขึ้น และยังสามารถต่อยอดไปถึงภาคอุตสาหกรรมการผลิตและส่งออกเพื่อให้ไทยเป็นฐานการการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนยานยนต์ของภูมิภาคได้ในอนาคต”นายอนุชากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกอิ๊งค์ควง 2 รมต.หญิงลง 'ขอนแก่น-มหาสารคาม' ติดตามแก้น้ำท่วม-น้ำแล้ง-ตัดริบบิ้นเปิดงาน
นายกฯ เร่งสปีดนโยบายรัฐบาล ลงขอนแก่น-มหาสารคาม 20 ธ.ค. แก้ไขน้ำท่วม-น้ำแล้ง พร้อมติดตามโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน พร้อมตัดริบบิ้นเปิดงานซอฟพาวเวอร์ของไทย
ครม.เคาะแพ็กเกจใหญ่ช่วยเหลือ 'ลูกหนี้รายย่อย-เอสเอ็มอี'
ครม. อนุมัติชุดใหญ่! จัดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ผู้ประกอบการ SMEs มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นแน่
นายกฯ อิ๊งค์ลั่นกลาง ครม.พร้อมลงภาคใต้แต่ไม่รู้เมื่อไหร่!
นายกฯ แจ้งที่ประชุม ครม. พร้อมลงภาคใต้ ขอ ศปช.ส่วนหน้าสรุปแผนแก้ไขน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ ทั้งระยะสั้น-ระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก
รัฐบาลตีปี๊บแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย
รัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง“ พฤหัสนี้ มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย หลังพบทุกมิติของประเทศคึกคัก คาดจีดีพีปีหน้าเติบโตสู้ประเทศในอาเซียนได้แน่
รัฐบาลพร้อมรับ 4 คนไทยกลับบ้าน เช็กสุขภาพ-เยียวยาจิตใจทันที
นายกฯ รับรายงานพร้อมรับ 4 คนไทยกลับบ้าน ด้าน สธ. เตรียมทีมดูแลสุขภาพกาย-จิตใจ ทันทีที่เหยียบแผ่นดินไทย
รัฐบาลชวนชมริ้วขบวนอัญเชิญ 'พระเขี้ยวแก้ว' จากดอนเมืองมาสนามหลวง
รัฐบาล เชิญชวนชมริ้วขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากดอนเมือง มาประดิษฐาน มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พร้อมเปิดสักการะ 5 ธ.ค.2567 - 14 ก.พ.2568