กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ชี้เป้าส่งออก “ชาไทยไม่ใส่นม”เจาะตลาดอินเดีย หลังทูตพาณิชย์นำ “ชาใบหม่อน” แจกทดลองตลาดได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เผยสามารถเจาะตลาดกลุ่มรักสุขภาพ ควบคุมน้ำหนัก และมังสวิรัติแนะช่องทางเพิ่มการรู้จักด้วยการขายเป็นของฝาก ขายผ่านตู้กด สอดแทรกเป็นเมนูในร้านอาหารมั่นใจเวิร์กแน่
11 เม.ย. 2566 -นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า จากการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่างๆอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับข้อมูลจากนางสาวสุพัตรา แสวงศรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ เมืองมุมไบ อินเดีย ถึงโอกาสในการส่งออกชาไทยไม่ใส่นม เจาะตลาดอินเดีย เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคชา ที่รักสุขภาพ ต้องการควบคุมน้ำหนัก และบริโภคอาหารมังสวิรัติ ที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า ปัจจุบันชาวอินเดีย นิยมดื่มชาโดยต้องมีการต้มนมสดก่อนใส่ชาลงไปผสม ซึ่งตรงนี้เองกลายเป็นจุดที่น่าสนใจว่าชาไทยที่มีกลิ่นหอมหวานจะเข้าไปเติมเต็มความต้องการของชาวอินเดียที่ต้องการลดการบริโภคนมได้หรือไม่ ซึ่งจากการแจกชิมชาใบหม่อนจากไทยให้ผู้บริโภคชาวอินเดียได้ทดลองดื่ม พบว่าได้รับการตอบรับที่ดี โดยคนอินเดียมองว่าเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก และผู้สูงอายุรวมถึงผู้ที่ทานอาหารมังสวิรัติแบบศาสนาเจน (Jain vegetarianism) ที่มีจำนวนประมาณ 4 ล้านคนในอินเดีย เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าชาใบหม่อนมีกลิ่นที่หอมหวานคล้ายขนมหวาน แต่ไม่มีส่วนผสมของนมทำให้สามารถดื่มได้บ่อยครั้งและไม่ยุ่งยากในการเตรียมเท่าการชงชาใส่นมหรือ Chai
ขณะเดียวกัน คนอินเดียยังให้ความสนใจกับสรรพคุณของชาใบหม่อนและชาอื่น ๆ ที่ส่งผลในการบำรุงรักษาสุขภาพด้วย อาทิ การมีสารต้านอนุมูลอิสระมีไฟเบอร์สูงช่วยในการระบาย และมีคาเฟอีนในปริมาณน้อย รวมถึงชาที่ผสมเครื่องเทศและผลไม้แห้ง เช่น ขิง และเปลือกมะนาว เป็นต้น
สำหรับช่องทางการแนะนำชาไทยให้คนอินเดียได้รู้จัก ทูตพาณิชย์ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นสามารถทำได้โดยการจำหน่ายเป็นของฝากสำหรับนักท่องเที่ยวอินเดียที่เดินทางมาประเทศไทย รวมถึงการจำหน่ายผ่านตู้ขายชาแบบอัตโนมัติ (Vending Machine) ที่มีชาร้อนและเย็นทั้งแบบอินเดียและแบบไทยให้บริการตามแหล่งท่องเที่ยวหรือสนามบิน และอาจสอดแทรกเมนูชาไทยเข้าไปในร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่มในอินเดีย ซึ่งปัจจุบันคนอินเดียเริ่มรู้จักเครื่องดื่มชาเย็นจากไทยบ้างแล้ว อาทิ ชาไทยใส่ไข่มุก และชาไทยหมัก เป็นต้น
ปัจจุบันการดื่มชาเป็นวัฒนธรรมของชาวอินเดียมาแต่โบราณ เกือบ 1 ใน 5 ของผลผลิตชาดำจากทั่วโลกจึงถูกบริโภคโดยชาวอินเดีย ในขณะเดียวกัน อินเดียเป็นผู้ผลิตชารายใหญ่เป็นอันดับสองรองจากจีน ด้วยกำลังการผลิตกว่า 1.35 ล้านตันต่อปี และยังส่งออกได้เป็นอันดับที่ 4 ของโลก รวมทั้งอินเดียยังได้มุ่งพัฒนาพื้นที่ปลูกชาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และผลักดันสินค้าชาเจาะตลาดต่างประเทศ ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย โดยเฉพาะชาที่เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เช่น ชาจากรัฐอัสสัม เป็นต้น
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พาณิชย์หนุนผู้ผลิตคอนเทนต์ ซีรีส์วายไทย ยกระดับสู่ตลาดโลก
DITP จับมือ สมาคมส่งเสริมคอนเทนต์ วาย ไทย แลกเปลี่ยน MOU ยกระดับดิจิทัลคอนเทนต์ไทยสู่ตลาดโลก
พาณิชย์ชี้เป้าผู้ส่งออกเกาะขบวนฮ่องกงบูมขายออนไลน์ส่งสินค้าไทยขายจีน
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ชี้เป้าผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทย ร่วมมือกับผู้ค้าฮ่องกง ขยายตลาดสินค้าไทยผ่านช่องทาง e-Commerce ฮ่องกงสู่ตลาดจีน หลังฮ่องกงมีแผนจัดเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ หนุนสินค้าฮ่องกงส่งออกสู่ตลาดจีน
'พาณิชย์-DITP' ส่งทูตพาณิชย์คุนหมิง ถกผู้บริหารด่าน เปิดทางสะดวกผลไม้ไทย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ส่งทูตพาณิชย์คุนหมิง หารือผู้บริหารด่านการค้า เปิดทางสะดวกผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดจีน รองรับฤดูกาลผลิตผลไม้ตั้งแต่ เม.ย.นี้ พร้อมดันร้านอาหาร Thai SELECT เป็นจุดขายสินค้าและโชว์วัฒนธรรมไทย
'พาณิชย์-DITP' ชี้เป้าส่งออกอาหารทางเลือกขายตลาดเกาหลีใต้
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยตลาดอาหารทางเลือก ทั้งอาหารจากพืชอาหารจากเซลล์เพาะเลี้ยงอาหารหมักจุลินทรีย์ และอาหารจากแมลงในตลาดเกาหลีใต้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องหลังผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพ และรักษาสุขภาพสัตว์ชี้เป็นโอกาสอาหารทางเลือกของไทยที่จะเข้าไปเจาะตลาด โดยเฉพาะอาหารที่ผลิตจากถั่ว สาหร่าย หรือแมลง รวมถึงเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง
'พาณิชย์' ชี้เป้าผู้ประกอบการไทยใช้ TikTok Shop ขายสินค้าในเวียดนาม
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ชี้เป้าผู้ประกอบการไทย ใช้ TikTok Shop ขยายตลาดสินค้าไทยในเวียดนาม หลังพบขยายตัวต่อเนื่อง แซงแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง จนขึ้นมาอยู่อันดับ 2 รองจาก Shopee และคนรุ่นใหม่นิยมใช้ เผยสินค้าขายดี แฟชั่น สุขภาพและการดูแลส่วนบุคคล อิเล็กทรอนิกส์ บ้านและไลฟ์สไตล์ และความงาม