สนค.วิเคราะห์ส่งออกปี 65 เจาะลึกข้อมูลการส่งออกรายสินค้าและบริการที่เป็นธุรกิจของคนไทย 100% พบสร้างรายได้เข้าประเทศได้สูงถึง 73,603.2 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 25.6% ของมูลค่าส่งออกรวม มีผู้ส่งออกทั้งสิ้น 15,337 ราย พร้อมติดตามสินค้าดาวรุ่งที่เติบโตได้ตลอดทั้งปี 65 พบมีสูงถึง 13 รายการ แนะภาครัฐ ภาคเอกชน นำข้อมูลไปใช้กำหนดนโยบายส่งเสริมและผลักดันส่งออก
11 เม.ย. 2566 – นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ใช้ฐานข้อมูลที่สำนักงานฯ ได้พัฒนาขึ้น เพื่อศึกษาและจัดทำข้อมูลการส่งออกรายสินค้าที่ส่งออกโดยธุรกิจของคนไทยอย่างแท้จริง พบว่า ธุรกิจที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ 100% สร้างมูลค่าส่งออกให้แก่ประเทศในปี 2565 เป็นจำนวน 73,603.2 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 25.6% ของมูลค่าส่งออกรวม มีผู้ส่งออกทั้งสิ้น 15,337 ราย โดยเป็นผู้ส่งออกที่ดำเนินธุรกิจในภาคการผลิต จำนวน 5,342 ราย มีมูลค่าส่งออก 37,029.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และผู้ส่งออกที่ดำเนินธุรกิจในภาคบริการ จำนวน 9,994 ราย มีมูลค่าส่งออก 34,834.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และผู้ส่งออกที่ไม่สามารถระบุประเภทธุรกิจได้ จำนวน 1 ราย มีมูลค่าส่งออก 1,738.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับธุรกิจของคนไทยในภาคการผลิตที่สร้างมูลค่าส่งออกมาก 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจผลิตโลหะมีค่า เช่น ทองคำ ธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติกและพลาสติกขั้นต้น ธุรกิจผลิตสตาร์ชมันสำปะหลัง ธุรกิจผลิตยางแผ่นและยางแท่ง และธุรกิจผลิตส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ตามลำดับ ขณะที่ธุรกิจของคนไทยในภาคบริการที่สร้างมูลค่าส่งออกมาก 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจขายส่งนาฬิกาและเครื่องประดับ ธุรกิจขายส่งข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการสีข้าว ธุรกิจกิจกรรมของตัวแทนผู้รับจัดการขนส่งสินค้าและตัวแทนออกของ (ตัวแทนดำเนินพิธีการศุลกากร) ธุรกิจขายส่งเชื้อเพลิงเหลว และธุรกิจขายส่งผักและผลไม้ ตามลำดับ
นอกจากนี้ ฐานข้อมูลของ สนค. ยังพบสินค้าส่งออกดาวรุ่งประจำปี 2565 จำนวน 13 รายการที่มีอัตราขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่องทุกเดือน แม้ว่าจะเกิดวิกฤตต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่ความไม่สงบในยูเครนในช่วงต้นปี จนถึงปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในช่วงกลางถึงท้ายปี ได้แก่ 1.โทรศัพท์และอุปกรณ์ 2.หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ 3.เครื่องประดับแท้ 4.ทองแดงและของทำด้วยทองแดงอื่น ๆ 5.เครื่องใช้สำหรับเดินทาง 6.สีทาและวาร์นิช และวัตถุตกแต่งสีอื่น ๆ 7.ผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ทางเภสัชกรรม 8.ส่วนประกอบและอุปกรณ์รถปิกอัพ รถบัส 9.เนื้อและส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ที่บริโภคได้ 10.วิสกี้ 11.อัญมณีสังเคราะห์ 12.ถุงมือหนัง เครื่องแต่งกายและเข็มขัด และ 13.หัวน้ำหอมและน้ำหอม
“การจัดทำข้อมูลดังกล่าว เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนำไปใช้กำหนดนโยบายส่งเสริมการค้าให้แก่ธุรกิจของคนไทยได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อช่วยผลักดันให้การส่งออกของผู้ประกอบการสัญชาติไทยมีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา สนค. ได้จัดทำข้อมูลเหล่านี้ ให้แก่ผู้บริหารหน่วยงานภายในกระทรวงพาณิชย์ได้ใช้ประโยชน์ รวมถึงให้แก่ภาคเอกชนได้ทราบข้อมูลการส่งออกไทยในมิติใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของภาคเอกชนต่อไปแล้ว”นายพูนพงษ์กล่าว