![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/03/e1.jpg)
ส่งออกก.พ.66 ทำได้มูลค่า 22,376.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 4.7% ติดลบ 5 เดือนติดต่อกัน เหตุเศรษฐกิจโลกชะลอ เงินเฟ้อคู่ค้าพุ่ง ทำกำลังซื้อหด แต่สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรฟื้นตัว เป็นบวกครั้งแรกรอบ 5 เดือน แต่อุตสาหกรรมยังลบ 6.2% ประเมินไตรมาสแรกติดลบสูง ไตรมาส 2 ก็ยังลบอยู่ แต่จะฟื้นครึ่งปีหลัง มั่นใจเป้าทั้งปี 1-2% ทำได้
31 มี.ค. 2566 -นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนก.พ.2566 มีมูลค่า 22,376.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 4.7% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 730,123 ล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่า 23,489.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.1% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 776,424.9 ล้านบาท ขาดดุลการค้า 1,113.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นเงินบาทมูลค่า 46,301.4 ล้านบาท รวม 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) การส่งออกมีมูลค่า 42,625.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 4.6% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 1,430,250.2 ล้านบาท นำเข้ามูลค่า 48,388.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 3.3% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 1,647,854.9 ล้านบาท ขาดดุลการค้า 5,763.1 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 217,604.7 ล้านบาท
ทั้งนี้ การส่งออกที่ลดลง มาจากการลดลงของสินค้าอุตสาหกรรม 6.2% ลดต่อเนื่อง 5 เดือนติด โดยสินค้าที่หดตัว เช่น สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ลด 20.6% เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ลด 22.9% เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ ลด 12.9% แต่รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เพิ่ม 3.6% อัญมณีและเครื่องประดับ ไม่รวมทองคำ เพิ่ม 81.7% เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ เพิ่ม 22.2% รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เพิ่ม 15.7% อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด เพิ่ม 60.5% หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เพิ่ม 39.7% เครื่องใช้สำหรับเดินทาง เพิ่ม 53.7%
ส่วนสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่มขึ้น 3.6% เป็นบวกครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยสินค้าสำเกษตร เพิ่ม 1.5% สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 5.6% สินค้าสำคัญที่เพิ่มขึ้น เช่น น้ำตาลทราย เพิ่ม 21.4% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่ม 5.2% ข้าว เพิ่ม 7.7% ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เพิ่ม 95% ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ เพิ่ม 171.4% ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง เพิ่ม 61.6% ส่วนยางพารา ลด 34% อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ลด 9.1% อาหารสัตว์เลี้ยง ลด 23.4% ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ลด 23.9%
สำหรับตลาดส่งออกสำคัญ ภาพรวมยังคงหดตัว โดยตลาดหลักลด 5.9% เช่น สหรัฐฯ ลด 9.5% จีน ลด 7.9% ญี่ปุ่น ลด 2.5% CLMV ลด 4.9% อาเซียน 5 ประเทศ ลด 6.4% แต่สหภาพยุโรป เพิ่ม 0.1% ตลาดรอง เพิ่ม 2.4% เช่น ฮ่องกง เพิ่ม 28.6% ตะวันออกกลาง เพิ่ม 23.8% ทวีปแอฟริกา เพิ่ม 11.2% แต่เอเชียใต้ ลด 9.4% ทวีปออสเตรเลีย ลด 9.2% ลาตินอเมริกา ลด 4.7% รัสเซียและกลุ่ม CIS ลด 26% สหราชอาณาจักร ลด 3.5% และตลาดอื่น ๆ ลด 67.1% เช่น สวิตเซอร์แลนด์ ลด 80.7%
ทางด้านการค้าชายแดนและผ่านแดน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในตัวเลขการส่งออกรวม เดือนก.พ.2566 การค้ารวมมีมูลค่า 135,137 ล้านบาท ลด 0.34% แยกเป็นการส่งออก มูลค่า 72,901 ล้านบาท ลด 6.17% และนำเข้า มูลค่า 62,236 ล้านบาท เพิ่ม 7.48% โดยส่งออกชายแดน ไปมาเลเซีย กัมพูชาและเมียนมา ลดลง แต่ส่งออกไปสปป.ลาว เพิ่มขึ้น และการส่งออกผ่านแดนไปจีนเพิ่มขึ้น แต่สิงคโปร์และเวียดนาม ลดลง
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า การส่งออกในไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ตัวเลขน่าจะจะยังติดลบ เพราะผู้นำเข้ามีสต๊อกค้างอยู่ ไตรมาส 2 (เม.ย.-มิ.ย.) ก็จะยังลบอยู่ แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลัง จะเริ่มกลับมาเป็นบวกมากขึ้น โดยกรมฯ จะเร่งกิจกรรมส่งเสริมและผลักดันการส่งออกต่อเนื่อง ซึ่งจนถึงขณะนี้ทำไปแล้วประมาณ 25% และตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 จะมีงานแสดงสินค้าใหญ่ ๆ มากขึ้น และทูตพาณิชย์ในต่างประเทศก็จะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่ไตรมาส 2 และ 3 ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกในระยะต่อไป ทั้งนี้ เห็นได้ชัดจากตลาดเป้าหมายที่มีการเพิ่มกิจกรรม เช่น ตะวันออกกลาง ยอดส่งออกเพิ่มได้สูงมาก
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกลดลง เนื่องจากฐานปีก่อนสูง ประเทศผู้นำเข้ารายสำคัญได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้า จึงมีการนำเข้าลดลง และเงินเฟ้อในหลายประเทศยังทรงตัวในระดับสูง มีผลต่อการซื้อสินค้าของผู้บริโภค จึงเป็นแรงกดดันต่อการส่งออกของไทย โดยการส่งออกก.พ.2566 ที่ลบ 4.7% เป็นการลดลงมาแล้ว 5 เดือนต่อเนื่อง และเดือนมี.ค.2566 คาดว่าจะลบประมาณ 8% ประเมินไตรมาสแรก จะติดลบสูง เพราะฐานปีก่อนสูง ไตรมาสแรกบวก 14.7% แต่จะดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง และเชื่อว่าเป้าหมาย 1.2% จะทำได้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า การส่งออกในเดือนก.พ.2566 ที่ขยายตัวติดลบ 4.7% เป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน นับจากเดือนต.ค.2565 ที่ลบ 4.4% พ.ย.2565 ลบ 6% ธ.ค.2565 ลบ 14.6% และม.ค.2566 ลบ 4.5%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภูมิธรรม' จ่อเรียก 3 บริษัทประมูลข้าว10 ปี ต่อรองราคา การันตีจบสัปดาห์นี้
'ภูมิธรรม' เตรียมเรียกบริษัทยื่นประมูลข้าวค้าง 10 ปี ที่เหลือ 3 ราย เจรจาต่อรองราคา การันตีจบสัปดาห์นี้
พาณิชย์การันตี! เตรียมร้านค้ารองรับ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ไว้พร้อมแล้ว
'ภูมิธรรม' เผยพาณิชย์เตรียมร้านค้ารองรับ 'ดิจิทัลวอลเลต' พร้อมแล้ว ประชุมวันนี้ทบทวนรายละเอียดทั้งหมด ก่อนนายกฯ แถลง 24 ก.ค.
DITP แนะเทรนด์แฟชั่นสิงคโปร์ ปี 67 ก่อนวางแผนผลิตสินค้าส่งออกไปขาย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยเทรนด์แฟชั่นสิงคโปร์ ปี 67 ผู้บริโภคสนใจสินค้าทำจากวัสดุเหลือใช้ แนวสตรีท สินค้าไม่ระบุเพศ ผ้าโปร่งสีขาว กางเกงยีนส์เอาต่ำ-สูง ผ้าลายดอก กระเป๋าทำจากวัสดุรีไซเคิล แนะผู้ส่งออกไทยศึกษาและวางแผนผลิตสินค้าไปขาย
'หมอวรงค์' จับพิรุธคำแถลงการจัดเรียงกองข้าว
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า จับพิรุธคำแถลงการจัดเรียงกองข้าว
'พี่อ้วน' มีเงื่อนไข! หากต้องส่งข้าว 10 ปีให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ถึงการส่งหนังสือไปถึงกระทรวงสาธารณสุข เพื่อ
ข้องใจข้าว 10 ปีกินได้ สารตั้งต้นเอาคนหนีคุกกลับประเทศ?
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์ Facebook ว่า อาจารย์เคมีนำข้าว 10 ปีไปทำการพิสูจน์ตามหลักวิชาการ ได้ผลออกมาบอกว่าข้าว 10 ปี