29 มี.ค. 2566 – นายพสิษฐ์ มั่นคงขันติวงศ์ กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย เปิดเผยว่า พฤติกรรมของลูกค้าได้เปลี่ยนไปและการปรับเปลี่ยนวิธีที่บริษัทให้บริการลูกค้าทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ คือ กุญแจสู่ความสำเร็จ โดยกลยุทธ์แพลตฟอร์ม O+O ถือเป็นรูปแบบธุรกิจและกลยุทธ์หลัก ซึ่งในปีนี้มีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถจับจ่ายได้ในทุกสถานการณ์ รวมถึงลูกค้าต้องสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ในราคาที่ดีที่สุด ในทุกๆ ครั้งของการชอปปิ้ง และแม้ว่าการกลยุทธ์ O+O หมายถึงมีสองช่องทาง แต่เห็นว่าลูกค้าคนเดียวกัน จะซื้อสินค้าทั้งจากทางออนไลน์และหน้าร้านนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการ เวลา หรือสถานที่ ในขณะนั้น ซึ่งหมายความว่าต้องมอบสิทธิประโยชน์ที่เท่ากันให้กับลูกค้าแต่ละราย และ “โปรโมเชื่อม” จะเป็นการมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าที่ซื้อสินค้าทั้งสองช่องทางของเราได้อย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ จากข้อมูลของบริษัทพบว่าการมีช่องทางออนไลน์ไม่ได้ส่งผลให้ยอดขายหน้าร้านลดลง ในทางกลับกันลูกค้าที่ชอปปิ้งทั้งทางออนไลน์และหน้าร้านมีการใช้จ่ายมากกว่าลูกค้าที่ซื้อหน้าร้านอย่างเดียว ถึง 3 เท่า
สำหรับการพัฒนากลยุทธ์แพลตฟอร์ม O+O ของวัตสัน ได้รับการผลักดันจากการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจทั่วประเทศ โดยในปี 2566 วัตสันวางแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 50 สาขา รวมถึงตั้งคลังสินค้าแห่งใหม่ที่วังน้อย จังหวัดอยุธยา ซึ่งจะทำหน้าที่กระจายสินค้าให้กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ
ขณะเดียวกันวัตสันยังคงพัฒนาบทบาทในฐานะผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทยต่อไป เพื่อตอบรับความต้องการของสมาชิกและลูกค้าทั่วประเทศ ด้วยผลิตภัณฑ์ของวัตสันเอง ตลอดจนการสานต่อความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ เพื่อนำเสนอโปรโมชั่นที่น่าสนใจให้กับลูกค้า และสนับสนุนแคมเปญผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมความยั่งยืน โดยในเดือนมีนาคม วัตสันได้เปิดตัว Dermaction Plus Solar Barrier ผลิตภัณฑ์เวชสำอางกันแดดซึ่งเป็นแบรนด์ของวัตสันเอง และปีนี้วัตสันจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายซึ่งเป็นแบรนด์ของวัตสันเอง รวมถึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเวชสำอางเพิ่มเติม จะยังคงสานต่อความร่วมมือกับคู่ค้าผ่านแคมเปญส่งเสริมการขาย และแคมเปญส่งเสริมด้านความยั่งยืนตลอดทั้งปี
ด้านสมาชิกวัตสัน คลับ กว่า 8 ล้านคน ได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากแพลตฟอร์มวัตสัน O+O แล้ว โดยตอนนี้สมาชิกสามารถสัมผัสกับประสบการณ์ชอปปิ้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ที่ราบรื่น ในราคาที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน และสามารถสะสม หรือใช้คะแนนได้เหมือนกันทั้งสองช่องทาง นอกจากนี้ วัตสันยังสามารถเสนอตัวเลือกสินค้าที่โดนใจให้แก่สมาชิกจากความชอบและการซื้อที่ผ่านมา อีกทั้งสมาชิกยังมีสิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรม และร่วมเวิร์กชอปสุดพิเศษที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนอีกด้วย
อย่างไรก็ดี วัตสันสนับสนุนความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับโลก ลูกค้า ผู้คน และชุมชน โดยจากการสำรวจ ในปี 2565 พบว่าคนไทยกว่า 60% ให้ความสำคัญกับสินค้าที่เป็นมิตรกับโลก และวัตสันได้เล็งเห็นความสำคัญนี้ โดยได้มีการปรับใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิล (PCR plastic หรือ Post-Consumer Recycled material) และใช้กระดาษที่ได้รับการรับรองจาก FSC* ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน รวมถึงเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับลูกค้า โดยปัจจุบันลูกค้ามีตัวเลือกมากถึง 1,800 รายการ รวมทั้งออกผลิตภัณฑ์แบบรีฟิล และลดการใช้บรรจุภัณฑ์ได้