นายกฯ ปลื้มโมเดล PPP ใน 4 โครงสร้างพื้นฐานหลักใน EEC มีมูลค่าลงทุนรวม 654,921 ล้านบาท รัฐได้ผลตอบแทนสุทธิ 210,352 ล้านบาท
28 พ.ย. 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามความคืบหน้า โครงการร่วมลงทุน รัฐ – เอกชน หรือ PPP (Public Private Partnership) ที่ได้ร่วมลงทุนกับเอกชนแล้ว 4 โครงการ มูลค่ารวมสูงถึง 654,921 ล้านบาท ภาคเอกชนลงทุน 416,080 ล้านบาท (ร้อยละ 64) ภาครัฐลงทุน 238,841 ล้านบาท (ร้อยละ 36) รัฐได้ผลตอบแทนสุทธิ 210,352 ล้านบาท ทั้ง 4 โครงการ เป็นการขับเคลื่อนการลงทุนเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เพื่อประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนคนไทยทั้งในปัจจุบันและอนาคต
โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้เปิดเผย 4 โครงการใหญ่ ประกอบด้วย 1) โครงการ High-Speed Railway เงินลงทุนรวม 276,561 ล้านบาท ภาครัฐลงทุน 159,938 บาท เอกชนลงทุน 116,623 บาท ผลตอบแทนภาครัฐ 37,603 ล้านบาท 2) โครงการท่าอากาศยานอู่ตะเภา เงินลงทุนรวม 204,240 ล้านบาท ภาครัฐลงทุน 17,674 บาท เอกชนลงทุน 186,566 ผลตอบแทนภาครัฐ 305,555 ล้านบาท 3) ท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 เงินลงทุนรวม 64,905 ล้านบาท ภาครัฐลงทุน 12,900 บาท เอกชนลงทุน ช่วงที่ 1 จำนวน 44,505 บาท และช่วงที่ 2 จำนวน 7,500 บาท บาท ผลตอบแทนภาครัฐ 14,765 ล้านบาท และ 4) ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เงินลงทุนรวม 109,215 ล้านบาท ภาครัฐลงทุน 48,329 บาท เอกชนลงทุน จำนวน 60,886 บาท ผลตอบแทนภาครัฐ 82,270 ล้านบาท
ทั้งนี้ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยบริหารร่วมกับเอกชนในพื้นที่ EEC ยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สินที่มีอยู่ ที่มีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 650,000 ล้านบาท ทั้งยังประหยัดงบประมาณของประเทศและยังสร้างรายได้สุทธิให้กับภาครัฐเป็นมูลค่าปัจจุบันมากกว่า 200,000 ล้านบาท อีกด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงหลักการสำคัญของโมเดลการลงทุนแบบ PPP ว่า เน้นการพึ่งพาตนเอง ลดการกู้เงินจากต่างประเทศเพื่อการลงทุน ลดภาระงบประมาณภาครัฐ พร้อมๆ กับสนับสนุนเอกชนไทย ธุรกิจไทยให้แข็งแรง ให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศได้ เกิดการสร้างงาน และสร้างรายได้ให้กับบริษัทไทย ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายเล็ก รวมทั้งระดับชุมชน รวมทั้งยังช่วยสร้างรายได้จากภาษีทางตรงและทางอ้อมให้กับภาครัฐจำนวนมาก ซึ่งแตกต่างจากอดีตที่ผ่านมา ที่มีการลงทุนต้องกู้เงินต่างประเทศมาทำโครงการ ต้องทยอยชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเงินกู้ ทำให้เกิดภาระทางการคลังในระยะสั้นและระยะยาว
“เป้าหมายสำคัญของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการส่งเสริมรูปแบบการลงทุนร่วมภาครัฐและเอกชนหรือ PPP เพื่อให้ภาครัฐและเอกชนร่วมกันเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนโครงการสำคัญต่าง ๆ ในพื้นที่ EEC และทั่วประเทศ ภายใต้แผนการลงทุนที่รอบด้าน ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่และทันสมัยดึงดูดการลงทุนจากชาวต่างชาติ ที่สำคัญ คือ ส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยและผู้ประกอบการไทย สามารถเติบโตควบคู่ไปกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการกระจายความเจริญออกไปสู่ทั่วทุกภูมิภาค ลดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งในปีหน้าหลายสถาบัน เช่น สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย ยังออกมาคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2565 มีแนวโน้มการขยายตัวสูงขึ้น แม้สถานการณ์โควิด – 19 จะยังคงอยู่” นายธนกร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นายกฯอิ๊งค์' ยกไอแพดคุย 'ทรัมป์' แสดงความยินดีชนะเลือกตั้ง ยันไทยพร้อมทำงานกับสหรัฐฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ นายโดนัลด์ เจ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิ
วาระแห่งชาติ! 'มาดามแพ' ดูนิทรรศการ 'ผ้าไทยใส่ให้สนุก' ยันออกแบบทันสมัย วัยรุ่นใส่ทำงานได้
ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (
เพจไทยคู่ฟ้าโชว์ภาพ 'มาดามแพ' ขยันมาก! นั่งเครื่องกลับไทยก็ยังทำงาน
เพจไทยคู่ฟ้า เผยแพร่รูป น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ระหว่างนั่งเครื่องกลับประเทศไทย #นายก
'อุ๊งอิ๊ง' พบชุมชนไทยในแอลเอ เผยมีโอกาสจะชวน 'คุณพ่อ' มาเที่ยว
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. เวลา 14.00 น. (ตามเวลานครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง) น.ส.แพทองธาร ชิ
'อุ๊งอิ๊ง' ประชุมเอกอัครราชทูตกงสุลใหญ่-ทีมไทยแลนด์ประจำภูมิภาคอเมริกา ยันรัฐบาลอยู่ครบเทอม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พ.ย.(ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง)
อดีตบิ๊กข่าวกรอง ถาม MOU เจรจาแล้วไทยจะได้-เสียอะไร เตือนซ้ำรอยปราสาทพระวิหาร
ฝ่ายตรงข้ามลากเส้นผ่าเกาะกูด แกล้งลากเส้นอ้อม แปลว่าล้อมไหม ช่วยบอกหน่อย เจรจาแล้วไทยจะได้อะไร ไทยต้องเสียอะไร เอาอะไรไปแลกเปลี่ยน