‘คลัง’ จ่อรีดภาษีโซเดียม!อ้างช่วยดูแลสุขภาพปชช.

“คลัง” เตรียมรีดภาษีโซเดียม สั่งสรรพสามิตศึกษาแนวทางจัดเก็บ หวังกดการบริโภคความเค็มลดลง ช่วยดูแลสุขภาพประชาชน หลังพบป่วยเป็นเบาหวาน ความดัน ไตเรื้อรังอื้อ

25 พ.ย. 2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวในงานสัมมนา เพื่อการขับเคลื่อนมาตรการลดการบริโภคเกลือโซเดียมในประชากรไทย ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระห่างการศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตความเค็มตามปริมาณโซเดียม และจะดำเนินมาตรการดังกล่าวในช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อไป โดยมาตรการภาษีสรรพสามิตเป็นอีกเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนให้ประชาชน และผู้ประกอบอุตสาหกรรมลดการบริโภคและลดการผลิตสินค้าที่มีปริมาณโซเดียมสูง ร่วมกับการใช้มาตรการอื่นที่ไม่ใช่ภาษี

โดยมีเป้าหมายให้การบริโภคโซเดียมของคนไทยในแต่ละวันให้น้อยกว่า 20% ต่อคนต่อวัน หรือเหลือ 2,800 มิลลิกรัมต่อคนต่อวัน จากอัตราการบริโภคของคนไทยในปัจจุบันที่ 3,600มิลลิกรัมต่อคนต่อวัน และมีเป้าหมายให้ลดต่ำกว่า 2,000มิลลิกรัมต่อคนต่อวัน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาข้อมูลขององค์การอนามัยโลกที่หากมีการบริโภคโซเดียมเกินเกณฑ์ก็จะมีผลต่อสุขภาพ ซึ่งเรื่องการจัดเก็บภาษีจากความเค็มนั้น ก็ต้องไปดูว่าจะเริ่มดำเนินการอย่างไร โดยอาจจะต้องใช้เวลา เพราะต้องมีการหารืออย่างรอบคอบกับผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อาหาร

“ปัจจุบันคนไทยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน และไตวายเรื้อรังเพิ่มมากขึ้น โดยมาจากการบริโภคหวาน มัน เค็ม ที่ผ่านมาคลังได้มีการจัดเก็บภาษีจากความหวานไปแล้ว ก็ได้ผลดี ต่อไปก็เป็นภาษีจากความเค็ม ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็น เนื่องจากโรคเรื้อรังส่งผลให้ภาครัฐสูญเสียค่าใช้จ่าย และโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจ ส่วนจะเริ่มจัดเก็บภาษีจากความเค็มได้เมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” นายอาคม กล่าว

ทั้งนี้ การจะกระตุ้นให้คนไทยบริโภคความเค็มลดลงนั้น มีเครื่องมือหลายอย่าง โดยเครื่องมือที่ดีที่สุดคือ เครื่องมือทางภาษี ก็จะได้ผลให้มีการลดการบริโภคได้ทันที และการเข้าไปดูในภาคอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งสินค้าทุกประเภทมีเกลือเป็นส่วนประกอบทั้งหมด การใช้เครื่องมือทางภาษีจึงต้องดูการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมด้วย รวมถึงมาตรการรณรงค์ในกลุ่มร้านอาหาร และพฤติกรรมของคนในครอบครัวให้ลดการบริโภคเค็มลง ยอมรับว่าคงต้องใช้เวลา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องยาก ทุกส่วนจะต้องปรับตัวทั้งหมด

นายอาคม กล่าวอีกว่า ภาษีจากความเค็มจะจัดเก็บทั้งจากอาหารสำเร็จรูป และอาหารกึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว รวมถึงเครื่องปรุงอาหารทั้งหมด เช่น ผงชูรส น้ำปลา เกลือ ผงปรุงรส เป็นต้น โดยจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยดูแล ได้แก่ สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ขณะที่ร้านอาหาร ภัตราคาร ก็ต้องมีองค์การอาหารและยา (อย.) เข้ามาช่วยดูคุณภาพ โดยจะใช้ระบบเดียวกับภาษีความหวานที่ต้องมีการวัดปริมาณที่ชัดเจน

นอกจากนี้ เมื่อมีการใช้เครื่องมือทางภาษีแล้ว จะต้องมีระบบการติดตามและประเมินผลของมาตรการลดการบริโภคโซเดียมด้วยว่า เครื่องมือทางภาษีแล้วจะมีผลต่อการลดการบริโภคอย่างไร อัตราการป่วยจากโรคไตเรื้อรังจะลดลงหรือไม่ อย่างไร หากไม่มีการติดตามประเมินผล ก็อาจจะสะท้อนว่าเครื่องมือทางภาษีไม่ได้ผล ไม่มีประโยชน์

นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต กรมสรรพสามิต กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของภาษีโซเดียม ไม่ได้มุ่งเป้าหมายที่การเพิ่มรายได้ของรัฐบาล แต่เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชนและการสูญเสียชีวิตจากการบริโภคโซเดียมเกินพอดี เพิ่มทางเลือกของสินค้าที่มีโซเดียมต่ำในท้องตลาดมากขึ้น และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมลดปริมาณโซเดียมในผลิตภัณฑ์ โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษา ส่วนการจัดเก็บยังต้องดูความพร้อมของภาคอุตสาหกรรม รวมถึงภาพรวมของเศรษฐกิจด้วย ซึ่งเวลานี้ยังไม่เหมาะจะดำเนินการ เนื่องจากเศรษฐกิจยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัว โดยมองว่าหากมูลค่าจีดีพีอยู่ที่16 ล้านล้านบาท อาจจะสามารถดำเนินการจัดเก็บภาษีจากความเค็มได้

“สินค้าที่จะจัดเก็บภาษีโซเดียมเป็นสินค้าที่มีความยืดหยุ่นต่อราคาสูง อาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงต้องให้เวลาผู้บริโภคในการปรับพฤติกรรมการบริโภคให้เหมาะสม และให้เวลากับผู้ประกอบการในการปรับเปลี่ยนสูตรผลิตภัณฑ์ โดยเบื้องต้นจะให้เวลาอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปีสำหรับการปรับตัวก่อนจะมีการจัดเก็บภาษีจริง” นายณัฐกร กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สรรพสามิตขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ชู “แพร่โมเดล” ต้นแบบ โครงการ1ชุมชน1สรรพสามิตแชมเปี้ยน

รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมและยกระดับสินค้าชุมชน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “สุราชุมชน หรือสุราพื้นบ้าน” ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเร่งแก้ไขปรับปรุงมาตรฐานสุราพื้นบ้านเพื่อยกระดับสินค้าชุมชนให้ได้มาตรฐาน

สรรพสามิต เตรียมเก็บภาษีคาร์บอน ย้ำจะไม่ให้กระทบประชาชน

สรรพสามิต เร่งชง ครม. เคาะภาษีคาร์บอน ยันไม่กระทบประชาชนแน่นอน พร้อมลุยยกเครื่องภาษีแบตเตอรี่ EV สร้างเกณฑ์คุณภาพเป็นหลัก

นับของกลาง 6 ชม. จับบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ภาคตะวันออก 3.5 ล้านมวน ค่าปรับ 504 ล้านบาท

นับของกลางกว่า 6 ชั่วโมง ตราดสนธิกำลังจับขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ที่สุดในภาคตะสันออก ของกลางบุหรี่ 3.5 ล้านมวน ผู้ต้องหา 3 คน ถูกปรับคนละ 168 ล้านบาท รวมค่าปรับกว่า 504 ล้านบาท

'อาคม' แจงยังไม่ต้องขยายเพดานวงเงิน มาตรา 28 แม้มีเงินเหลือ 1.8 หมื่นล้านบาท

“อาคม” ชี้ยังไม่จำเป็นต้องขยายเพดานมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง สั่ง สศค. ไล่เช็คบิลหน่วยงานเร่งปิดโครงการคืนยอดเพื่อให้มีวงเงินนอกงบใช้จ่ายมากขึ้น