อุตฯพลาสติกจ่อบูม หลังปี 65 ขยายตัว 12.88% จับตาปี 66 การส่งออกโต 3-5% ด้านเอกชนลุยจัดงานรับเทรนด์ ดันโอกาสธุรกิจไทยแสดงศักยภาพ
27 ก.พ. 2566 – นายวีระ ขวัญเลิศจิตต์ ผู้อำนวยการ สถาบันพลาสติก เปิดเผยว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากโรคระบาด ทำให้มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ปี 2565 ขยายตัวจากปีก่อนหน้า 12.88% และปี 2566 คาดว่าการส่งออกทั้งผลิตภัณฑ์พลาสติกและเรซิ่นจะขยายตัวประมาณ 3-5% เนื่องจากอุตสาหกรรมพลาสติกยังเป็นส่วนสำคัญที่สนับสนุนการขยายตัวของอุตสาหกรรมปลายทาง เช่น บรรจุภัณฑ์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การก่อสร้าง อุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น
“ภาพรวมของอุตสาหกรรมพลาสติกทั่วโลก ปัจจุบันมีการผลิต 360 ล้านตัน โดยในส่วนของประเทศไทยผลิตได้ 9.5 ล้านตัน นำเข้า 2 ล้านตัน ส่งออก 5.5 ล้านตัน ที่เหลือใช้ในประเทศ โดยส่วนใหญ่ผลิตเป็นสินค้า commodity สัดส่วน 83% เป็นสัดส่วนการใช้ 75% และผลิตเป็นสินค้า specialty สัดส่วน 17% เป็นสัดส่วนการใช้ 25% รวมแล้วมูลค่าการใช้และส่งออก 1.2 ล้านล้านบาท คิดเป็น 7.6% ของ GDP และคาดว่าในอีก 3-4 ปีข้างหน้า อุตสาหกรรมพลาสติกไทยจะโต 3%”นายวีระ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ รวมถึงมาตรการทางการค้าที่เข้มงวดจากประเทศคู่ค้าเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลในปีนี้ รวมทั้งปรับตัว ศึกษาแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนสู่ความยั่งยืน การลดการปล่อยคาร์บอนหรือภาวะเรือนกระจกจากกระบวนการผลิต รวมถึงการเลือกใช้วัสดุทางเลือก เช่น พลาสติกชีวภาพ หรือพลาสติกรีไซเคิล ภายใต้แนวคิดบีซีจี โมเดล เพื่อพัฒนาสู่ความยั่งยืน สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน และลดมลพิษในกระบวนการผลิต เพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ด้านนายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่าจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงาน “พลาสติกแอนด์รับเบอร์ ไทยแลนด์ 2023: Plastic & Rubber Thailand 2023” งานแสดงเทคโนโลยี เครื่องจักร และวัตถุดิบ สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตพลาสติกและยางแบบครบวงจรในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน พร้อมกับ “งานอินเตอร์แมค” งานแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีและเครื่องจักรเพื่อการผลิต และ “ซับคอน ไทยแลนด์ 2023” เปรวบรวมผู้รับช่วงการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ระดมผู้เชี่ยวชาญ นักธุรกิจ และกลุ่มพันธมิตร จากทั่วโลกกว่า 45,000 คน ผลักดันธุรกิจไทยแข็งแกร่ง เติบโตสู่โอกาสที่ใหญ่กว่าในตลาดโลก ในวันที่ 10-13 พ.ค.2566 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค
โดยตั้งเป้าหมายให้ผู้เข้าชมงานเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัยจากผู้ผลิตโดยตรง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ บรรจุภัณฑ์ การก่อสร้าง อุปกรณ์ทางการเกษตร รวมถึงหาโอกาสในการจับคู่ธุรกิจ อัพเดทความรู้นำไปต่อยอดธุรกิจได้ เช่น การผลิตด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนหรือก๊าซเรือนกระจก การเพิ่มศักยภาพทางการผลิตเพื่อตอบรับนโยบาย บีซีจี โมเดล ซึ่งนับเป็นความท้าทายครั้งใหม่ที่นักอุตสาหกรรมจะต้องเผชิญและต้องปรับตัวเพื่อเข้าสู่การผลิตแห่งความยั่งยืน