'บินไทย' จ่อยุบไทยสมายล์ปักธงได้ข้อสรุปภายในเดือนพ.ค.นี้

“การบินไทย” เปิดแผนประกอบการ ปี 65 กำไรสุทธิกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ขาดทุนน้อยลงเหลือ 272 ล้านเดินหน้าควบรวมกิจการกับไทยสมายล์ สรุปภายใน 2 เดือน หวังลดต้นทุน ย้ำออกจากแผนฟื้นฟูต้นปี 67

26 ก.พ. 2566 – นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ปี 2565 ว่า ในไตรมาสที่ 4 ของปีบริษัทฯ มีรายได้ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 36,902 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 367% มีค่าใช้จ่ายไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 28,020 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (EBIT) 8,882 ล้านบาท ดีกว่าปีก่อนหน้าซึ่งขาดทุน 2,579 ล้านบาท

ทั้งนี้ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานติดต่อกัน 2 ไตรมาสตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/2565 เป็นต้นมา จากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว การปรับโครงสร้างทางธุรกิจและต้นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ โดยมีกำไรสุทธิ 11,154 ล้านบาท และมีกำไรก่อนหักต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จากการดำเนินงาน 11,061 ล้านบาท ดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 660% ส่วนผลประกอบการปี 2565 การบินไทย และบริษัทย่อยขาดทุนสุทธิ 272 ล้านบาท จากปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 55,390 ล้านบาท

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ตามขั้นตอนแผนฟื้นฟูกิจการ คาดว่าเมื่อมีทุนหมุนเวียน รายได้ดีขึ้นตามเป้าหมายในต้นปี 2567 เตรียมออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ จากนั้นจะยื่นสำนักงาน ก.ล.ต. กลับเข้าไปซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ในปี 2568 ส่วนแผนงานในปี 2566 เตรียมเพิ่มฝูงบินแอร์บัส 350 จำนวน 6 ลำ รวมทั้งหมดเป็น 71 ลำ เพื่อเปิดเส้นทางบินเน้นตลาดยุโรปทุกเมืองใหญ่ รวมถึง จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เอเชียใต้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศเพิ่มต่อเนื่อง ทำรายได้ 1.4 แสนล้านบาท ในปี 2566 และคาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสาร 12 ล้านคน โดยกลับมาทำการบินได้ 70-80%

สำหรับการปรับโครงสร้างธุรกิจการบินในกลุ่มการบินไทย โดยยุติบทบาทของบริษัทไทยสมายล์ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯอยู่แล้ว ซึ่งระบุชัดว่าในที่สุดแล้วจะเหลือเพียงการบินไทยแบรนด์เดียวเท่านั้น ไม่มีไทยสมายล์ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการโดยเรื่องนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อแก้ไขแผนธุรกิจภายใต้ยุทธศาสตร์การบริหารที่เป็นทีมเดียว ซึ่งจะใช้เวลาในการศึกษาประมาณ 2 เดือนน่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนพ.ค.2566 จากนั้นจะนำเสนอคณะกรรมการเจ้าหนี้เพื่อขอความเห็นชอบ ก่อนนำเสนอรมว.คมนาคมในฐานะที่กำกับดูแลกิจการการบินพลเรือน เพื่อพิจารณาเห็นชอบการแก้ไขปรับปรุงแผนธุรกิจ ก่อนเสนอสำนักงานคณะกรรมการการบินพลเรือน(กบร.) คาดว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะสามารถบริหารงานที่เป็นทีมเดียวกันได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตลาด mai เปิดกำไร บจ. ไตรมาส 1 รวมทะลุ 4.6 พันล้านบาท

บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 มียอดขายรวม 54,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.2% ต้นทุนขาย และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 6.7% และ 6.4% ตามลำดับเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ บจ. มีความสามารถในการทำกำไรในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ดีขึ้น

เซ็นทรัล รีเทล โชว์รายได้ Q1 โกยรายได้ 6.7 หมื่นล้าน

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “เซ็นทรัล รีเทล เปิดปีโตต่อเนื่อง ด้วยผลประกอบการในไตรมาสแรก

OR เผยผลประกอบการไตรมาสแรก 2567 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนในทุกกลุ่มธุรกิจ เสริมแกร่งศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ มุ่งสู่การเป็น Data-Driven Organization ควบคู่กับการสร้างอนาคตอย่างยั่งยืน

OR เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 มี EBITDA จำนวน 6,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 100% จากไตรมาสก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจ และมีกำไรสุทธิ 3,723 ล้านบาท

IRPC กำไร 1,545 ล้านบาท รุกเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษใหม่ ตั้งเป้าขายน้ำมันดีเซลยูโร 5 เต็มสูบ

“IRPC” เผยกำไรไตรมาสแรก 1,545 ล้านบาท รุกเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษตามแผนกลยุทธ์ ตั้งเป้าไตรมาส 2/2567 ลุยขายน้ำมันดีเซลยูโร 5 รองรับความต้องการภายในประเทศที่สูงขึ้น