‘อาคม’ บี้แบงก์รัฐผุดสินเชื่อดอกต่ำหนุนตั้งสถานีชาร์จ EV

“คลัง” แจงอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี วอนทุกฝ่ายอดใจรอ พร้อมพิจารณามาตรการภาษีสนับสนุนอุตสาหกรรมรถอีวี เล็งผุดกองทุนหนุนราคาขายถูกลง กระทุ้งแบงก์รัฐผุดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำอุ้มลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้า เดินหน้าตามแนวทางรักษ์โลก

25 พ.ย. 2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการกระตุ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี โดยอยากให้ทุกฝ่ายใจเย็น ๆ ก่อน

อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2564 รมว.การคลัง เป็นประธานในการเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT สาขากระทรวงการคลัง เพื่อใช้ชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ของทางราชการ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับข้าราชการและประชาชนที่มาติดต่อราชการที่กระทรวงการคลัง ถือเป็นการนำร่องติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในสถานที่ราชการเป็นแห่งแรกของไทยด้วย

โดยนายอาคม ระบุว่า กระทรวงการคลังได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เป็นประธาน ให้เร่งพิจารณามาตรการภาษีที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาษีสรรพสามิต เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ทั้งห่วงโซ่การผลิต เริ่มต้้งแต่การผลิตแบตเตอรี่เป็นต้นไป รวมถึงอาจต้องมีมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ จากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์อีวีในระยะต่อไป

นอกจากนี้ ยังต้องมีมาตรการ หรือกลไกที่เข้าไปช่วยเพื่อสนับสนุนให้ราคารถยนต์อีวีลดลง จากปัจจุบันที่มีราคาแพง เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้งานมากขึ้น เบื้องต้นอาจดำเนินการเป็นลักษณะเงินกองทุน ส่วนรายละเอียดคงต้องรอคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติพิจารณา

“สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐต้องตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ที่ปัจจุบันทั้งไทยและทั่วโลกมุ่งนโยบายในการลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ดังนั้นภาคการเงินก็ต้องเดินหน้าสนับสนุนธุรกิจใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่างการให้สินเชื่อสำหรับผู้ลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่อรองรับอุตสาหกรรมรถอีวี” นายอาคม กล่าว

นอกจากนี้ ต้องมีมาตรการสนับสนุนให้ไทยซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าแห่งการผลิตรถกระบะ น้ำหนัก 1 ตัน เริ่มมีการผลิตรถกระบะแบบไฟฟ้า จากขณะนี้ที่เริ่มมีค่ายรถยนต์บางแห่งมีการนำเข้ารถกระบะประเภทดังกล่าวมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีสายการผลิตในประเทศ ดังนั้นเงื่อนไขในการนำเข้ารถกระบะไฟฟ้าระยะแรกอาจต้องเพิ่มเรื่องการสนับสนุนการผลิตในประเทศไทยเข้าไปด้วย โดยต้องไปดูโครงสร้างภาษีที่จะสนับสนุนให้เกิดการลงทุนรถกระบะไฟฟ้า เพื่อให้ไทยยังคงเป็นศูนย์กลางการผลิตรถกระบะ ซึ่งที่ผ่านมามีทางการผลิตเพื่อขายในประเทศและการส่งออก

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มอบนโยบายว่าให้ส่วนราชการเริ่มต้นการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ผ่านการจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์ของส่วนราชการที่ในแต่ละปีมีจำนวนมาก ทั้งรถกระบะ รถตู้ และรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งการจัดซื้อจัดจ้างก็คงเป็นไปตามนโยบาย ทยอยดำเนินการ เพราะปัจจุบันยังไม่มีรถไฟฟ้าแบบ 100% อาจจะต้องเริ่มในส่วนที่มีก่อน เช่น รถส่วนบุคคลที่ใช้ในราชการ” นายอาคม กล่าว

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ในฐานะผู้แทนกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สถานี EleX by EGAT สาขากระทรวงการคลังนั้น เป็นสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบ Normal Charge ขนาด 22 กิโลวัตต์ จำนวน 2 เครื่อง โดย กฟผ. เป็นผู้ลงทุนและดูแลบริหารจัดการตลอดอายุการใช้งาน

ทั้งนี้ กฟผ. ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรจากหลายภาคส่วน พัฒนาและติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ “Elex by EGAT” ดำเนินการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าบนถนนหลักและในพื้นที่เมือง (In-Town) เช่น ห้างสรรพสินค้า สถานที่เล่นกีฬา ร้านอาหารแล้ว 15 สถานีทั่วประเทศ รวมถึงในอนาคตได้วางแผนติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าเพิ่มเติมอีกสำหรับภาคธุรกิจขนส่ง และอื่น ๆ โดยคาดว่าในช่วงสิ้นปี 2564 ถึงต้นปี 2565 จะสามารถขยายสถานี ทำให้มีจำนวนเพิ่มเป็น 40-50 สถานี และในปีหน้า จะขยายสถานีอย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาจากความต้องการใช้และปริมาณรถยนต์อีวีเป็นหลัก เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนผ่านและกระตุ้นให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯอิ๊งค์ รับฟัง ภาคเศรษฐกิจเสนอแผน-มาตรการกระตุ้นศก. 3 เรื่องเร่งด่วน

เริ่มแล้ว! ภาคเศรษฐกิจเสนอแผน-มาตรการกระตุ้นศก. ‘นายกฯแพทองธาร’ ประธานหอการค้าฯ ยินดีนายกฯคนใหม่ ขอให้บริหารงานราบรื่น พร้อมเสนอ 3 เรื่องเร่งด่วน

ก้าวไกลข้องใจมาตรการอุ้มอสังหาฯ เพื่อคนไทยมีบ้านหรือช่วยพ่อค้าโล๊ะสต๊อก

'วรภพ' ตั้งคำถามมติ ครม. ลดค่าจดทะเบียนจำนองเหลือ 0.01% ขยายให้รวมถึงบ้านราคาไม่เกิน 7 ล้าน เป็นมาตรการเพื่อคนไทยมีบ้าน หรือเพื่อช่วยบริษัทอสังหาโล๊ะสต็อกบ้านกันแน่

ลาก่อนปีกระต่าย เศรษฐกิจไทยจะสดใสรับปีมะโรงหรือไม่

นับถอยหลัง เข้าสู่ปีมะโรงกับช่วงเวลาที่เหลือไม่ถึง 2 สัปดาห์ บนความท้าทายทางเศรษฐกิจสังคมไทยที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ปีนี้เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะเติบโตค่อนข้างน่าผิดหวังจากที่คาดไว้ 3% เหลือเพียง 2.5% โดยเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ