สอน.ยกเครื่องอุตฯอ้อยและน้ำตาลทรายผุดแพลตฟอร์มตลาดกลางเครื่องจักร

สอน.ยกเครื่องอุตฯอ้อยและน้ำตาลทราย ผุดตลาดกลางเครื่องจักรบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เดินหน้าหนุนชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดลดอ้อยไฟไหม้ 10% เล็งหาพันธมิตรหนุนโมเดลปลูกอ้อยรวมแปลงไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่ ชูต้นแบบการบริหารจัดการต้นทุนต่ำกว่า 1,000 บาทต่อไร่ ให้ผลผลิตสูงเกิดแน่ภายใน 3 ปี

25 พ.ย. 2564 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ส่งเสริมชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดส่งโรงงานน้ำตาลทรายมากขึ้น ผ่านการนำนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาภาคการผลิต โดยได้ดำเนินมาตรการลดต้นทุนแก่ชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดในอัตราเงินอุดหนุน 120 บาทต่อตันอ้อยอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ทั้งยังนำเทคโนโลยีเครื่องจักรมาใช้ในการบริหารจัดการไร่อ้อยให้มากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวแบบครบวงจร

นายเอกภัทร วังสุวรรณ เลขาธิการสอน. เปิดเผยว่า การดำเนินงานของ สอน. ในปี 2564 ได้ยกระดับการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการทำงานรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้พัฒนาแพลตฟอร์มตลาดกลางเครื่องจักรที่ใช้ในไร่อ้อย บนเว็บไซต์ www.Raiaoi.com เพื่อเป็นตลาดกลางเชื่อมโยงชาวไร่อ้อยกับผู้ประกอบการเครื่องจักรกลทั้งที่ขายและให้เช่าได้เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน ช่วยให้ชาวไร่อ้อยเข้าถึงข้อมูลและเครื่องจักรที่ต้องการได้สะดวกรวดเร็วขึ้น เช่น รถแทรกเตอร์ รถตัดอ้อย รถไถ รถสาง รถพรวนดิน แล็บเตอร์ เป็นต้น ภายใต้งบประมาณสนับสนุนจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย

“สอน. ขอเชิญชวนผู้ประกอบการเครื่องจักรกลทางการเกษตรทั้งรายเล็กรายใหญ่ ทั้งขายและให้เช่า เช่น คูโบต้า ฟอร์ด แคต ช้างแทรคเตอร์ สยามอิมพลีเม้น และอื่นๆ ฯลฯ รวมถึงเกษตรกรรายย่อยที่เป็นลูกค้าสินเชื่อซื้อเครื่องจักรทางการเกษตรกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ก็สามารถเข้าร่วมโครงการขาย/ให้เช่าเครื่องจักรบนเว็บไซต์ไร่อ้อยได้ ช่วยเพิ่มศักยภาพการตัดอ้อยให้ได้อย่างน้อย 20,000 ตันต่อเครื่องตัดต่อปี คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 2,000 ไร่ เพิ่มรายได้ให้เจ้าของเครื่องจักรคืนทุน”

นายเอกภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่สำคัญยังสนับสนุนให้ชาวไร่อ้อยหันมาตัดอ้อยสดลดปริมาณการตัดอ้อยไฟไหม้ เพื่อลดปัญหามลภาวะฝุ่นพิษอย่างต่อเนื่อง โดยฤดูการผลิตปี 2564/2565 สอน. ตั้งเป้าหมายลดปริมาณการตัดอ้อยไฟไหม้เหลือ 10% ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด โดยปีนี้คาดการณ์ปริมาณอ้อยเข้าหีบอยู่ที่ 85 ล้านตัน (ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2563/2564 ที่มีอ้อยไฟไหม้เกือบ 27% ของปริมาณอ้อยทั้งหมด 66.65 ล้านตัน และลดลงจากปี 2562/2563 ที่มีอ้อยไฟไหม้ประมาณ 49%) และฤดูการผลิตปี 2565/2566 ตั้งเป้าหมายตัดอ้อยไฟไหม้ลดลงเหลือ 5% และปี 2566/2567 เป็น 0% เพื่อแก้ไขปัญหาการเผาไร่อ้อยเป็นการลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างถาวร

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างเสาะหาพันธมิตรทำแปลงปลูกอ้อยแบบรวมแปลงใหญ่เป็นพื้นที่นำร่องขนาดไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่ภายในปีนี้ เพื่อเป็นแปลงตัวอย่างในการเพาะปลูกและการบริหารจัดการต้นทุนที่เป็นมาตรฐาน ตั้งเป้าหมายให้ชาวไร่อ้อยมีต้นทุนปลูกอ้อยต่ำกว่า 1,000 บาทต่อไร่ จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,200-1,400 บาทต่อตันต่อไร่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกให้มีผลผลิตสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 12 ตันต่อไร่ จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 9 ตันต่อไร่ ภายใน 3 ปี

เพิ่มเพื่อน