กพท.ชี้อุตสาหกรรมการบินกลับมาโตอีกครั้งภายในปี 67-68

กพท.มั่นใจแนวโน้มอุตสาหกรรมการบินหลังโควิด-19 คาดกลับมาเติบโตอีกครั้งในปี 67-68 หลังผู้โดยสาร-เที่ยวบินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งสัญญาณดี พร้อมเร่งแผนแม่บทโดรนรองรับการขยายตัว คาดเคาะร่างฉบับแรกภายในปีนี้

10ก.พ.2566-นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย  หรือ กพท. เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการบินภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และหลายประเทศรวมถึงไทยได้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ส่งผลให้ภาพรวมในปีในปี 2565 อุตสาหกรรมการบินฟื้นตัว โดยมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 75,815,455 คน และเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเป็น 570,360 เที่ยวบิน ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี  โดย กพท.คาดการณ์ว่าจำนวนผู้โดยสารจากทั่วโลกจะฟื้นตัวและกลับมาเท่ากับปี 2562 ในช่วงปี 2567 – 2568

นอกจากนี้ กพท.ได้จัดทำแผนฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินปี 2565-2568 ภายใต้กรอบแนวคิดที่มุ่งเน้นให้อุตสาหกรรมการบินสามารถ “อยู่รอด เข้มแข็ง และยั่งยืน” โดยในปี 2566-2567 เป็นการดำเนินการในระยะกลาง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับ และเพิ่มประสิทธิภาพอุตสาหกรรมการบิน โดยมีเป้าหมายดำเนินงาน เช่น เป้าหมายของปี 2566 คือ สามารถออกใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะเพิ่มอีก 8 สนามบิน มีระบบจัดการสิ่งแวดล้อมของสนามบิน (EMS) สามารถเข้ารับการตรวจประเมินจาก ICAO เพื่อยกระดับมาตรฐานของประเทศ

สำหรับการดำเนินงานด้านการวิจัย พัฒนา และแนวทางการบริหารจัดการการใช้งานอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินหรือโดรน ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจของ กพท.ในการจัดทำแผนแม่บทอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน เพื่อเป็นแผนหลักในการขับเคลื่อนระบบอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านห้วงอากาศ โครงสร้างพื้นฐานอากาศยาน สถาบันฝึกอบรม การซ่อมบำรุง เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและส่งเสริมให้กิจการอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินในประเทศเติบโตได้อย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตามปัจจุบันโดรนได้เข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตหลากหลายด้าน และคาดการณ์บทบาทในอนาคตที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโดรนเพื่อความบันเทิง โดรนเพื่อกู้ภัย โดรนเพื่อการเกษตร โดรนเพื่อการขนส่ง เป็นต้น โดยเฉพาะโดรนเพื่อการเกษตร ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พบว่าในปี 2562 มีจำนวนผู้ขึ้นทะเบียนเพียง 328 ลำ และเพิ่มขึ้นเป็น 4,836 ลำในปี 2565 ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

“กพท.คาดว่าภายในปีนี้จะสามารถจัดทำร่างแผนแม่บทอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินฉบับแรกแล้วเสร็จ เพื่อให้เห็นทิศทางของการกำกับดูแลโดรนให้มีมาตรฐานความปลอดภัย หลังจากนั้นจะดำเนินงานควบคู่ไปกับงานส่วนอื่นๆ เพื่อทำให้แผนแม่บทฉบับนี้แล้วเสร็จ และมีผลบังคับใช้โดยเร็ว ให้ทันต่อจำนวนที่เพิ่มขึ้นของโดรนในประเทศไทย”นายสุทธิพงษ์ กล่าว