ธ.ก.ส. หนุนธุรกิจชุมชน อัดฉีดสินเชื่อดอกเบี้ยถูกวงเงิน 50,000 ล้านบาท

ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อโครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทย ระยะที่ 2 ตามนโยบายรัฐบาล หนุนผู้ประกอบการเป็นหัวขบวนขับเคลื่อนธุรกิจชุมชน และสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิต เพื่อกระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ในชุมชน สู่การยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน อัดฉีดวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปีใน 3 ปีแรก โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3.50 ต่อปี สามารถติดต่อขอรับสินเชื่อได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568

10 ก.พ. 2566 – นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. พร้อมดำเนินโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย ระยะที่ 2 เพื่อสนับสนุนหัวขบวนให้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนธุรกิจชุมชนสนับสนุนการดำเนินธุรกิจตามโมเดล BCG ภายใต้หลัก SDGs และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมเชื่อมโยงธุรกิจตลอดห่วงโซ่สินค้าเกษตร ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ อันนำไปสู่การจ้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับเกษตรกรในชุมชน การสนับสนุนการแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิต การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเกษตรมาปรับใช้และพัฒนากระบวนการผลิต รวมถึงการส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อันนำไปสู่การยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท

สำหรับเงื่อนไขผู้ขอใช้สินเชื่อ ต้องเป็นเกษตรกร บุคคล กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง สถาบันการเงินประชาชน สถาบันการเงินชุมชน สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม ผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร และเกษตรกรรุ่นใหม่ (Smart Farmer) ที่เป็นหัวขบวนธุรกิจชุมชน ที่มีความพร้อมดำเนินธุรกิจในลักษณะตลาดนำการผลิต มีการจัดทำแผนธุรกิจชุมชน มีการจัดสรรประโยชน์ให้แก่สมาชิกและชุมชน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการผลิตให้แก่เกษตรกรในชุมชน เช่น การรวบรวมหรือรับซื้อผลผลิตที่ให้ราคาสูงกว่าตลาด การจัดหาปัจจัยการผลิตมาจำหน่ายในราคาถูกเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในชุมชน และการสนับสนุนสินเชื่อตามแนวทางโมเดลเศรษฐกิจ BCG Model ในกรณีขอสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน ต้องเข้าร่วมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรของหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนเพื่อให้มีแหล่งน้ำสำหรับใช้ในกิจกรรมการผลิตภาคการเกษตร และมีการจัดทำประกันภัยหรือผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันความเสี่ยงในการผลิต วงเงินสินเชื่อรายละไม่เกิน 100 ล้านบาท ภายใต้กรอบวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท โดยเกษตรกรจ่ายดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.01 ต่อปี และรัฐบาลจ่ายชดเชยดอกเบี้ยแทนร้อยละ 3.50 ต่อปี ในช่วง 3 ปีแรกนับแต่วันกู้ และปีต่อไปคิดอัตราดอกเบี้ยตามประเภทลูกค้า ได้แก่ MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.625) หรือ MLR (ปัจจุบัน MLR เท่ากับร้อยละ 5.125) โดยกำหนดระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ตามที่มาแห่งรายได้ สูงสุดไม่เกิน 15 ปี พิเศษ ไม่เกิน 20 ปี

ทั้งนี้ โครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย ได้สนับสนุนชุมชนในการขับเคลื่อนธุรกิจไปแล้วจำนวน 6,294 ราย วงเงินสินเชื่อ 27,670.69 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ สามารถติดต่อได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 555 0555 ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' ยันยังไม่เลิก 'ไร่ละพัน' แจง 'ปุ๋ยคนละครึ่ง' หวังช่วยชาวนาอีกทาง

'ภูมิธรรม' แจงไม่ได้ยกเลิกไร่ละพัน พร้อมดึงกลับมาใช้ถ้าราคาข้าวตก ย้ำคนละส่วนกับปุ๋ยคนละครึ่ง ชี้ สส. รุมค้าน เหตุไม่เข้าใจถ่องแท้ไปฟังเกษตรกรมา

'บอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต' เคาะแหล่งที่มาเงิน 4.5 แสนล้าน ไม่ง้อ ธ.ก.ส. ชง ครม. 23 ก.ค.

'บอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต' เคาะงบ 4.5 แสนล้าน แจก 45 ล้านคน ตัดงบ ธ.ก.ส. ชง ครม. สัปดาห์หน้า แถลงใหญ่ 24 ก.ค. ยันลงทะเบียนไตรมาส 3 โอนเงินไตรมาส 4

นายกฯ เสียงแข็ง! คุยตลอดปมแหล่งเงินใช้ในโครงการดิจิทัล ลั่นทุกอย่างยึดตามกม.

นายกฯ เผย คุยตลอดปมแหล่งเงินใช้ในโครงการดิจิทัล บอกเข้าใจข้อกังวล เดี๋ยวจะแถลงให้ทราบ ลั่นทุกอย่างต้องถูกต้อง เป็นไปตามกม. พร้อมรับการตรวจสอบ ไม่เสียกำลังใจหลังถูกมองเข้ามาการเมืองเริ่มเจอคดีเป็นหางว่าว

ปูดวาระซ่อนเร้น! เหตุดึงดัน 'แจกเงินดิจิทัล'

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ได้คุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินคนหนึ่ง ซึ่งได้เคยดำเนินการออกหุ้นกู้ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่

ดิจิทัลวอลเล็ตส่อขัดรธน.! อดีตรมว.คลังแนะกฤษฎีกาตีความ รัฐบาลล้วงงบฯจากปี67ด้วย

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์