ธ.ก.ส. เตือน ! ระวังนายทุนชักชวนให้ร่วมลงทุนและปล่อยเงินกู้นอกระบบ เพื่อให้ลูกค้านำไปปิดหนี้ ธ.ก.ส. โดยมีรายได้จากดอกเบี้ยร้อยละ 3 ภายใน 7 – 14 วัน ยืนยัน ธ.ก.ส. ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว และพร้อมเอาผิดทางกฏหมายกับผู้แอบอ้างชื่อเสียงธนาคารไปหลอกลวงหาประโยชน์ส่วนตน
9 ก.พ. 2566 -นายไพศาล หงษ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีสื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวนายทุนในหมู่บ้านทำการหลอกลวงชาวบ้านตำบลหนองซอน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม โดยชักชวนให้ร่วมลงทุนและปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยแอบอ้างว่า ให้ลูกค้ากู้เพื่อนำเงินไปปิดหนี้ ธ.ก.ส. สาขาโกสุมพิสัย ซึ่งได้ดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 3 ซึ่งผู้ที่ร่วมลงทุนจะได้รับเงินต้นและดอกเบี้ยคืนภายใน 7 – 14 วัน และมีการทำสัญญากู้ยืมไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งในช่วงแรกชาวบ้านลงทุนและได้รับเงินตามข้อมูลดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านคนอื่น ๆ หลงเชื่อ นำเงินทุนจากการประกอบอาชีพค้าขายสินค้าทางเกษตรมาลงทุนปิดหนี้ให้ลูกค้า ธ.ก.ส. ที่นายทุนกล่าวอ้างจำนวนหลายราย นอกจากนี้ ยังมีการชักชวนให้นำเงินไปปล่อยกู้นอกระบบให้กับลูกค้าในกรณีเร่งด่วน รวมถึงแอบอ้างว่า ลูกค้า ธ.ก.ส. ต้องการปิดหนี้ด่วน และ ธ.ก.ส. สาขาโกสุมพิสัย ต้องการทำผลงานในการปิดยอดเงินกู้
ธ.ก.ส. ขอแจ้งว่า ธ.ก.ส. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวและไม่มีนโยบายในการให้เจ้าหน้าที่ธนาคารเข้าไปมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำดังกล่าว ดังนั้น ข้อมูลที่ปรากฏบนสื่อจึงเป็นวิธีการที่มิจฉาชีพใช้แอบอ้าง โดยนำชื่อเสียงของ ธ.ก.ส. มาใช้เพื่อหลอกลวงให้หลงเชื่อและสร้างความเข้าใจผิด ดังนั้น ธ.ก.ส. จึงขอให้เกษตรกรลูกค้าและประชาชนทั่วไปอย่าหลงเชื่อบุคคลดังกล่าวหรือกระทำการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือเป็นการสนับสนุนเด็ดขาด ทั้งนี้ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ธนาคารเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนผู้กระทำผิด ธ.ก.ส. มีมาตรการในการตรวจสอบวินัยและลงโทษตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด และ ธ.ก.ส. จะดำเนินการเอาผิดทางกฏหมายกับผู้ที่แอบอ้างในลักษณะดังกล่าวต่อไป หากพบเห็นมิจฉาชีพทำการแอบอ้างชื่อเสียงธนาคาร หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ ติดต่อได้ที่ Call Center 02 555 0555 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงเว็บไซต์ www.baac.or.th และ Facebook Page “ธกส BAAC Thailand” และ “ธกส บริการด้วยใจ”
นายไพศาล กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ ธ.ก.ส. มีมาตรการในการดูแลและช่วยเหลือลูกค้าที่มีปัญหาหนี้สินที่เป็นภาระหนักแบบครบวงจร ตามนโยบายกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ การขยายระยะเวลาการชำระหนี้ เช่น มาตรการจ่ายดอกตัดต้น มาตรการจ่ายน้อย ผ่อนคลายได้ลดดอกเบี้ย และมาตรการทางด่วน ลดหนี้ เป็นต้น เพื่อลดความกังวลใจในเรื่องหนี้ การให้คำปรึกษาด้านการจัดการหนี้ ทั้งในและนอกระบบ ควบคู่กับการเติมสินเชื่อใหม่ ภายใต้อัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายและการลงทุน เช่น สินเชื่อนวัตกรรมดีมีเงินทุน สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ ดังนั้น ลูกค้าที่มีปัญหาเดือดร้อน จากภาระหนี้สินที่เกิดจากเหตุสุจริตและจำเป็น ขอให้เข้าไปพบพนักงานที่สาขาที่ลูกค้าใช้บริการ เพื่อจัดการเรื่องหนี้สินตามมาตรการที่มีต่อไป ไม่จำเป็นต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง เพื่อนำมาชำระหนี้ เพราะจะเป็นการเพิ่มภาระหนี้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ธ.ก.ส. มุ่งมั่นที่จะดูแลเกษตรกรให้ก้าวพ้นกับดักหนี้ เพื่อให้เกษตรกรกลับมาประกอบอาชีพและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกษตรกรเฮ! ธ.ก.ส. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สูงสุด 0.25%
ธ.ก.ส. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สูงสุดร้อยละ 0.25 พร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ส่งเสริมวินัยการออม
สุดอึ้ง!จุลพันธ์ตีขลุมเสร็จสรรพบอกดิจิทัลฯ สุ่มเสี่ยงแสดงว่าไม่ผิดกฎหมาย
'จุลพันธ์' แจงเปลี่ยนแหล่งที่มาของเงิน 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ให้มีความเหมาะสมขึ้น ยันปลายปีนี้เงินถึงมือ ปชช.แน่นอน ย้ำไม่ใช่นโยบายสงเคราะห์