“สรท.” คาดไตรมาส 1/66 ส่งออกไทยโตแผ่ว ลุ้นติดลบ 3-5% ชี้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวทุบหนักสุด มองทั้งปียังโตได้ 1-2% อานิสงส์เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวหนุนเต็มสูบ พร้อมอ้อน “แบงก์ชาติ” ทบทวนขึ้นดอกเบี้ยนโยบายให้อยู่ในระดับเหมาะสม ขอรัฐทยอยขึ้นค่าไฟฟ้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป
7 ก.พ. 2566 – นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก กล่าวว่า คาดภาวะการส่งออกของไทยในไตรมาส 1/2566 อาจเติบโตน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดว่าจะติดลบ 3-5% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แม้การส่งออกในเดือน ม.ค. 2566จะขยายตัวได้ดีกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนก็ตาม แต่ทั้งปียังมั่นใจว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ 1-2%
“ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว เดือน ม.ค. 2566 น่าจะส่งออกไปสัก 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เติบโต 3-5% แต่ไตรมาสแรกคงได้แค่ 7 หมื่นล้านดอลลาร์ ติดลบ 3-5% เพราะเติบโตน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนไตรมาส 2/2566จะเริ่มฟื้นตัวตามทิศทางเศรษฐกิจของจีน แต่ สรท.ยังมั่นใจว่าส่งออกทั้งปีจะโตได้ 1-2%” นายชัยชาญ กล่าว
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคสำคัญ ได้แก่ 1.ปริมาณสินค้าคงคลังของคู่ค้ายังคงทรงตัวในระดับสูง ส่งผลให้คู่ค้าชะลอคำสั่งซื้อสินค้า 2.ต้นทุนการผลิตยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการ และจำเป็นต้องส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปยังผู้บริโภค (Consumer) และ 3. สถานการณ์ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้ส่งออกสูญเสียความสามารถในการแข่งขันทางด้านราคาต่อประเทศคู่ค้าและคู่แข่งที่มีค่าเงินอ่อนกว่าไทย 4. ราคาพลังงานในตลาดโลกยังคงมีความผันผวนตามสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ คาดราคาจะอยู่ที่ระดับ 80-90 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ มองว่า แม้จะมีปัจจัยลบหลายเรื่อง แต่เชื่อว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนจะเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลดีกับภาคการส่งออกได้มากกว่า
อย่างไรก็ดี สรท. มีข้อเสนอแนะที่สำคัญ ได้แก่ 1. ด้านอัตราแลกเปลี่ยน ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทไม่ให้มีความผันผวนเร็วเกินกว่าประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยค่าเงินบาทที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 34-35 บาท/ดอลลาร์ 2.ด้านต้นทุน ขอให้ ธปท. ทบทวนการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเพิ่มมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีในซัพพลายเชนการส่งออกที่อาจได้รับผลกระทบดังกล่าวควบคู่กัน
และขอให้ภาครัฐควบคุมหรือปรับขึ้นค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (FT) ในภาคการผลิตแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงพิจารณามาตรการสนับสนุน เพื่ออุดหนุนการใช้พลังงานทางเลือก เช่น มาตรการทางภาษี ลดหย่อนภาษี ในการเปลี่ยนไปใช้พลังงานทางเลือกอื่นทดแทนอาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar), พลังงานหมุนเวียน (Renewable) และพลังงานชีวมวล (Biomass) เป็นต้น รวมทั้งขอให้คณะกรรมการไตรภาคีพิจารณาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างรอบคอบ สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจที่แท้จริง และ3. ด้านการค้าระหว่างประเทศ เร่งผลักดันกระบวนการเจรจาเขตการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรปให้บรรลุผลโดยเร็ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สรท. ยืนเป้าหมายส่งออกปี 66 หดตัว 0.5% ถึงโต 1%
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) แถลงข่าวร่วมกับ นายสุภาพ สุวรรณพิมลกุล รองประธาน และนายคงฤทธิ์ จันทริก ผู้อำนวยการบริหาร ระบุว่าภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนพฤษภาคม 2566
10 แบงก์โกยกำไรไตรมาส 1 พุ่ง 6 หมื่นล้าน
10 ธนาคารพาณิชย์แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ปี 2566 กำไรสุทธิรวม 60,138 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,130 ล้านบาท หรือ 13.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้าน SCB กำไรสูงสุด ส่วน BBL เพิ่มขึ้นกว่า 3,011 ล้านบาท และ KBANK ลดลง 470 ล้านบาท
'สรท.' คาดส่งออกไตรมาสแรกติดลบ 10% วอนคุมค่าไฟ-เงินบาท
“สรท.” คาดส่งออกไทยไตรมาส 1/66 ติดลบ 10% ห่วงทั้งปีโตไม่ถึง 1% แจงลุยทำสมุดปกขาวชงรัฐบาลใหม่ออกมาตรการอุ้มส่งออก
'สรท.'คาดส่งออกไทยปี 66 งานหินปัจจัยลบจ่อทุบหนัก
“สรท.” คาดปี 2566 ส่งออกไทยโตหน่วงที่ 2-3% เหตุปัจจัยลบรุมเร้าอื้อ จับตาจีนผ่อนคลายมาตรการโควิด-ดัชนี PMI สหรัฐฯ แผ่ว-เศรษฐกิจโลกชะลอ-ราคาน้ำมันพุ่ง-บาทแข็ง จ่อทุบหนัก พร้อมประเมินส่งออกปีนี้ยังโตได้ 7-8% วอน ธปท.คงดอกเบี้ยประคองภาคธุรกิจ รัฐทยอยขยับค่าไฟฟ้าแบบค่อยเป็นค่อยไป
‘สรท.’มองบวกลุ้นส่งออกไทยปีนี้โตถึง 10%
ส่งออกไทยปี 2565 มีลุ้นโตถึง 10% ยังรับบทพระเอกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หลังสัญญาณครึ่งปีหลังดีต่อเนื่อง จับตาปัจจัยเสี่ยงเงินเฟ้อ-ราคาพลังงานสูง-ขาดแคลนวัตถุดิบ พร้อมอ้อน ธปท. คงดอกเบี้ยนโยบายหวังช่วยประคองภาคธุรกิจ ไม่ซ้ำเติมรายจ่ายประชาชน
เอกชนลุ้นส่งออกไตรมาสแรกโตแกร่งอ้อนรัฐคุมดีเซล/ค่าน้ำ-ไฟฟ้า
ยังแกร่ง! “เอกชน” ลุ้นไตรมาส 1/65 ส่งออกโตกระฉูด 5% คงเป้าหมายทั้งปีโตเต็มสูบ 5-8% จับตาราคาพลังงานพุ่ง หวั่นกระทุ้งต้นทุนขนส่งทะยาน ดันราคาสินค้าอุปโภคบริโภคขยับ อ้อนรัฐตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร พร้อมขอคุมราคาค่าน้ำ-ไฟฟ้า ชงทยอยปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ