องค์การนายจ้างห่วงเด็กจบใหม่ไร้งานทำ

สภาองค์การนายจ้าง ห่วงเด็กจบใหม่ไร้งาน หลังทยอยเข้าตลาด 4-5 แสนคนช่วงก.พ.- มี.ค.นี้ ชี้สถานการณ์การส่งออกชะลอตัวตามทิศทางเศรษฐกิจโลก ฉุดการจ้างงานใหม่ยังจำกัด แม้ท่องเที่ยวจะฟื้นแต่ตลาดส่วนใหญ่ต้องการแรงงานไร้ทักษะ

6 ก.พ. 2566 – นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่าระหว่างเดือนก.พ.-มี.ค.นี้ จะมีแรงงานจากเด็กจบการศึกษาใหม่ทยอยเข้าสู่ระบบอีกประมาณ 4-5 แสนคนซึ่งจะทำให้ตัวเลขดังกล่าวเข้ามาสมทบกับตัวเลขของแรงงานเด็กจบใหม่ที่ยังหางานไม่ได้ก่อนหน้านั้นเพิ่มขึ้นท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจไทยที่มีทั้งปัจจัยลบจากผลกระทบการส่งออกชะลอตัวแต่ยังมีปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะภายหลังจีนเปิดประเทศ ดังนั้นการหางานของเด็กจบใหม่ยังคงเผชิญกับการแข่งขันที่สูง

“เด็กจบใหม่หากจบการศึกษาเฉพาะด้าน เช่น ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ การแพทย์ฯลฯ ประเภทนี้ยังหางานได้ไม่ยากแต่จบปริญญาตรีทั่วไปยอมรับว่ายังคงลำบาก โดยจะพบว่าในช่วงต้นปีปกติหลังรับโบนัสจะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานสูงแต่ปีนี้มีน้อยมากแสดงให้เห็นว่างานหายากขึ้น”นายธนิต กล่าว

ทั้งนี้ตลาดแรงงานที่จะรองรับเด็กจบใหม่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นระดับปริญญาตรี คือตลาดภาคการผลิตและส่งออก ซึ่งภาคการส่งออกของไทยปีนี้จะโตเพียง 1-2% จากปีก่อนเพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวโดยเฉพาะตลาดหลัก ๆ เช่นสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปโดย ทำให้การส่งออกไทยเริ่มได้รับผลกระทบในช่วงปลายปี 2565 และคาดว่าจะยังคงต่อเนื่องอย่างน้อยไตรมาสแรกปีนี้เนื่องจากพบว่าคำสั่งซื้อ(ออเดอร์)จากต่างประเทศล่วงหน้าเดือนมี.ค. 66 มีสัญญาณลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวและบริการจะฟื้นตัวโดยมีการประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยปีนี้มีอาจแตะระดับ 28 ล้านคนแต่ตลาดแรงงานส่วนนี้ส่วนใหญ่ยังขาดแคลนแรงงานไร้ทักษะมากกว่า และแรงงานส่วนนี้ยังคงเป็นตลาดคนละส่วนกับภาคการผลิต และมีแนวโน้มที่ตลาดส่วนนี้จะหันมาใช้ระบบหุ่นยนต์มากขึ้นโดยเฉพาะในร้านอาหาร ค้าปลีก นอกจากนี้ระบบการขายได้เปลี่ยนไปสู่ตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้นตลาดแรงงานส่วนนี้ระยะยาวจะลดต่ำลง

“จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติไตรมาส 4 ปี 65 มีผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน จำนวน 40.14 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้มีงานทำ 39.59 ล้านคนผู้ว่างงาน 4.6 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงาน 1.2% แม้ว่าภาวะว่างงานจะพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วและเริ่มฟื้นตัวแต่ตัวเลขผู้เสมือนว่างงานหรือผู้ที่ทำงานน้อยกว่า 4 ชั่วโมงต่อวันแม้ว่าแรงงานกลุ่มนี้ไม่ตกงาน แต่ก็มีรายได้ลดลงตามชั่วโมงการทำงาน ที่อาจส่งผลให้มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการยังชีพทั้งครัวเรือน โดยในไตรมาส 4 ปี 2565 มีผู้เสมือนว่างงานจำนวน 2.13 ล้านคนซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ของปี 65 ซึ่งสะท้อนความเปราะบางของการจ้างงาน”นายธนิต กล่าว

นายธนิต กล่าวว่า ปัญหาแรงงานของไทยที่น่ากังวลคือการเข้าสู่สังคมสูงอายุแบบสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่ง หมายถึงสัดส่วนประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นแตะ 14% ของประชากรทั้งหมดในปี 2565 สาเหตุเป็นเพราะอัตราการเกิดของคนไทยมีแนวโน้มลดต่ำลงมาอย่างต่อเนื่องและหากยังปล่อยไว้เช่นนี้ไทยจะขยับขึ้นเป็นสังคมสูงอายุแบบสุดยอด (Hyper Aged Society) หรือมีสัดส่วนประชากรสูงอายุเข้าหา 20% โดยใช้เวลาเพียง 9 ปีหลังการเป็นสังคมสูงอายุแบบสมบูรณ์ ซึ่งนับว่าเป็นอัตราที่รวดเร็วกว่าประเทศญี่ปุ่นที่ใช้ระยะเวลา 11 ปีซึ่งจะกระทบต่อตลาดแรงงานของไทยมากยิ่งขึ้น

“ ภาคการผลิตส่วนหนึ่งเห็นทิศทางไทยที่คนวัยทำงานเริ่มลดลงจึงมองแนวทางการใช้เครื่องมือเครื่องจักรหรือนำเทคโนโลยีเข้ามาทดแทนแรงงานคน หรือการนำเข้าแรงงานต่างด้าวมากขึ้น และบางรายหันไปลงทุนประเทศเพื่อนบ้านแทนซึ่งเห็นว่าไทยต้องเร่งแก้ไขทั้งการพัฒนาเด็กใหม่ให้ตรงสายงานและปัญหาคนสูงวัยที่จะเพิ่มขึ้นอย่างเป็นระบบ”นายธนิต กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘พิพัฒน์’ เปิดตลาดแรงงานรุ่นใหม่สิงคโปร์ นับ 4,000 คน หารือทูตสิงคโปร์ ฝึกงาน เพิ่มโควตาจ้างงาน พัฒนาทักษะรองรับงานในอนาคต

วันที่ 21 สิงหาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นางสาวหว่อง เสี่ยว ผิง แคเทอริน (Ms.Wong Siow Ping Catherine)

"สิรภพ" นำทีมเจรจา รมว.เศรษฐกิจฯ มาเก๊า กระชับความสัมพันธ์สองประเทศ ขยายตลาดแรงงานภาคบริการและโรงแรม

วันที่ 7 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 น. นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เดินทางเยือนมาเก๊า

จบทริปเยือนเกาหลีใต้ ได้สวย ! "พิพัฒน์" หารือ รมว.แรงงานเกาหลี เพิ่มโควตารัฐจัดส่งแรงงานอีก 15%

วันที่ 14 มีนาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน และนายสมาสภ์

ทั่วประเทศมีตำแหน่งว่าง 648,277 อัตรา กรมการจัดหางานจัด Job Expo 4 ภาค

รัฐบาล ติดตามสถานการณ์การมีงานทำของประชาชน พบทั่วประเทศมีตำแหน่งว่าง 648,277 อัตรา พร้อมรองรับผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ กรมการจัดหางานจัด Job Expo 4 ภาค พร้อมบริการแพลตฟอร์ม “ไทยมีงานทำ” หนุนการเข้าถึง

รมว.สุชาติ เจรจา 2 รัฐมนตรี หวังเปิดตลาดแรงงานสาขาใหม่ๆในออสเตรเลีย

วันที่ 2 มีนาคม 2566 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน